คลังเผยจัดเก็บรายได้รัฐ 10 เดือนแรกปีงบ 58 ต่ำกว่าเป้า 4.1%

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 58 (ต.ค.57-ก.ค.58) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,771,755 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 75,575 ล้านบาท หรือ 4.1% (แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 5.5%)

ทั้งนี้ เป็นผลจากภาษีเงินได้นิติบุคคล จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 61,144 ล้านบาท คิดเป็น 14.1%, ภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 51,014 ล้านบาท คิดเป็น 7.9%, ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 34,404 ล้านบาท คิดเป็น 30.2% และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 20,854 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23.5%

อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีน้ำมัน สูงกว่าเป้าหมาย 48,970 ล้านบาท คิดเป็น 89.6%, การจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่น สูงกว่าเป้าหมาย 28,047 ล้านบาท คิดเป็น 24.3% และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ สูงกว่าเป้าหมายจำนวน และ 11,225 ล้านบาท หรือ 10.5%

โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคม 2558 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 141,805 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 8,668 ล้านบาท หรือ 5.8% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 9.5%) โดยการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 8,713 ล้านบาท คิดเป็น 13.2% และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 3,073 ล้านบาท คิดเป็น 33.8% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้า และอุปสงค์รถยนต์ภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวดี

นอกจากนี้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,575 ล้านบาท เนื่องจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้นำส่งเหลื่อมไปในเดือนสิงหาคม การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และโรงงานยาสูบขอเลื่อนการนำส่งรายได้ไปในเดือนกันยายน

อย่างไรก็ดี ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,915 ล้านบาท หรือ 105.3% เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซล นอกจากนี้ การนำส่งรายได้จากการชำระบัญชีของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยส่วนหนึ่ง และการจัดเก็บค่าใบอนุญาตต่างด้าวที่สูงกว่าประมาณการ ส่งผลให้ส่วนราชการอื่นจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 2,536 ล้านบาท