SEAFCO แรงงานหาย..กำไรหด.!
บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดงบไตรมาส 3/2563 ออกมา ตัวเลขกำไรน้อยจนผิดสังเกต..!! โดยงวดนี้ทำกำไรหล่นหายไป 77.23% เหลือแค่ 23 ล้านบาท จากเดิมเคยทำได้สูงถึง 102 ล้านบาท...
สำนักข่าวรัชดา
บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดงบไตรมาส 3/2563 ออกมา ตัวเลขกำไรน้อยจนผิดสังเกต..!! โดยงวดนี้ทำกำไรหล่นหายไป 77.23% เหลือแค่ 23 ล้านบาท จากเดิมเคยทำได้สูงถึง 102 ล้านบาท…
จึงเกิดคำถามตามมาว่า เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นเสาเข็มเจาะตัวนี้ ทำไมกำไรถึงลดฮวบฮาบซะขนาดนี้..?
สุดท้ายมาถึงบางอ้อ…เมื่อพบว่าตัวการหลักเกิดจากปัญหาขาดแคลนแรงงานจากสถานการณ์โควิด ทำให้แม้จะมีแบ็กล็อกหนาแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถบุ๊กได้
ส่งผลให้รายได้จากการรับจ้างหายไป 30.84% อยู่ที่ 525 ล้านบาท จากเดิมทำได้ 759 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 11.33% จากเดิมอยู่ที่ 20.85%
แม้ขาของต้นทุนจะลดลง ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนจากการรับจ้างลดลง 22.52% อยู่ที่ 456 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงิน ลดลง 11.08% อยู่ที่ 34 ล้านบาท แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะไปชดเชยกับขาของรายได้ที่หายไปได้…
ส่งผลให้งวด 9 เดือน SEAFCO มีกำไรแค่ 189 ล้านบาท ลดลง 41.56% จากเดิมเคยทำได้ 324 ล้านบาท
SEAFCO จึงตกอยู่ในสถานการณ์แรงงานหาย…กำไรหดไปโดยปริยาย…
ทว่าเห็นสถานการณ์ของ SEAFCO แล้ว ชวนให้นึกถึงกลุ่มหุ้นรับเหมาก่อสร้างตัวอื่น ๆ ซึ่งต้องใช้แรงงานต่างด้าวจำนวนมากเหมือนกัน น่าจะมีหัวอกไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นเสาเข็มเจาะอีกตัวอย่างบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON หุ้นรับเหมาฯ ขนาดกลางและเล็กอย่าง บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ
รวมทั้งกลุ่ม 3 บิ๊กรับเหมาฯ ที่ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
อยู่ที่ว่าใครจะกระทบมาก ใครจะกระทบน้อย เพราะเมื่อไม่มีแรงงาน ก็จะไปกระทบต่อการส่งมอบงานที่ต้องล่าช้าออกไป…
ก็ต้องมาดูว่าปัญหานี้จะลากนานแค่ไหน ซึ่งก่อนหน้านี้แม้มีการคลายล็อกเปิดให้แรงงานต่างด้าวจาก 3 ประเทศ กัมพูชา ลาว และเมียนมา เดินทางเข้าประเทศได้ ภายใต้เงื่อนไขต้องกักตัวอีก 14 วัน แต่จากสถานการณ์โควิดที่ระบาดหนักในประเทศเพื่อนบ้าน อาจมีการเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้นอีก ยิ่งซ้ำเติมปัญหาขาดแคลนแรงงานมากขึ้น…
เอ๊ะ..!! หรือผู้ประกอบการต้องยอมแบกต้นทุนเพิ่มขึ้น ด้วยการหันมาจ้างแรงงานไทยแทน…ไม่แน่ในสถานการณ์ที่โรงงานต่าง ๆ ปิดตัวระนาวเซ่นพิษโควิดอย่างนี้ อาจทำให้แรงงานไทยเปลี่ยนทัศนคติหันมาทำงานก่อสร้างมากขึ้นก็ได้…ใครจะไปรู้
น่าติดตามว่า บรรดาผู้ประกอบการรับเหมาฯ แต่ละค่ายจะรับมือกับวิกฤติครั้งนี้อย่างไร..?
แหม๊…สงสัยปีนี้คงเป็นปีชงของหุ้นรับเหมาฯ แน่ ๆ เพราะก่อนจะมีโควิด ก็ถูกภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การลงทุนชะงักงัน รวมทั้งความล่าช้าของงบประมาณปี 2563 กดดันอยู่แล้ว นี่มาเจอโควิดกระแทกซ้ำ จนเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานตามมาอีก…
เรียกว่าซวยซ้ำซวยซ้อนจริง ๆ
สงสารคนที่ติดอยู่ในบ่วงวังวนของหุ้นรับเหมาฯ น่ะสิ…งานนี้ไม่รู้จะลืมตาอ้าปากได้เมื่อไหร่..?
…อิ อิ อิ…