STA รายได้ธุรกิจยางทะลัก!ดันกำไร Q3 โตแตะ 2.08 พันลบ. สูงสุดเป็นประวัตการณ์-ปันผล 0.50 บ.

STA รายได้ธุรกิจยางทะลัก! ดันกำไร Q3 โตแตะ 2.08 พันลบ. สูงสุดเป็นประวัตการณ์-ปันผล 0.50 บ.


บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/63 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.63 ดังนี้

โดยในไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ มีรายได้รวมจาก 2 ธุรกิจหลัก อันได้แก่ ธุรกิจถุงมือยางและธุรกิจยางธรรมชาติ อยู่ที่ 16,496.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 8.1 เทียบไตรมาสก่อหน้าโดยการเพิ่มขึ้นของรายได้รวมส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจถุงมือยาง ที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งปริมาณการขายและราคาขายเฉลี่ย

โดยใน ไตรมาส3/2563 ปริมาณการขายถุงมือยาง เติบโตร้อยละ 40.8 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ลดลงร้อยละ 4.5 เทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากติดปัญหาความแออัดของการขนส่งทางทะเล ขณะที่บริษัทฯ ยังคงการผลิตอย่างเต็มศักยภาพของเครื่องจักร สำหรับธุรกิจยางธรรมชาติ รายได้อ่อนตัวสอดคล้องกับราคายางธรรมชาติในตลาดโลกในช่วงปลายเดือนเม.ย. – ปลายเดือนก.ค.ที่คำสั่งซื้อส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติของบริษัทฯ จะมีการตกลงกัน 2-3เดือนล่วงหน้าก่อนการส่งมอบ

ขณะที่ในเดือนส.ค. จนถึงสิ้น ไตรมาส3/2563 ราคายางธรรมชาติในตลาดโลกปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เป็นเหตุให้ต้นทุนวัตถุดิบที่บันทึกในงบการเงินในลักษณะของต้นทุนเฉลี่ยต้องปรับเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย และจากสถานการณ์ที่กดดันทั้งราคาขายและต้นทุนวัตถุดิบ บริษัทฯ จึงตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับการดำเนินกลยุทธ์ในการขายแบบเลือกสรร (Selective Selling) ในการให้ความสำคัญกับการรักษาอัตราการทำกำไรมากกว่าปริมาณการขาย โดยใน ไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ มีปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติรวม 214,873 ตัน ปรับลดลงร้อยละ 21.1เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ10.2 เทียบไตรมาสก่อหน้าตามลำดับ

การเติบโตของธุรกิจถุงมือยางสร้างสถิติใหม่ในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจยางธรรมชาติสามารถประคองตัวได้ดี ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากร้อยละ 6.3 ในไตรมาส 3/2562 และร้อยละ 16.2 ในไตรมาส2/2563 เป็นร้อยละ 34.1 ในไตรมาสนี้ ตลอดจนต้นทุนทางด้านการเงินที่ลดลง จากการคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดชำระ ประกอบกับสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่สะท้อนให้เห็นจากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ปรับลดลง ทำให้ในไตรมาส 3/2563 บริษัทฯบันทึกผลกำไรสุทธิสูงสุดเป็นเป็นประวัตการณ์อีกครั้งอยู่ที่ 2,084.4 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1,442.9 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวร้อยละ 90.6 เทียบไตรมาสก่อหน้า และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 12.6

นอกจากนี้ยังประกาศปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2563 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2563 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 พ.ย.2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 ธ.ค.2563

Back to top button