ดาวโจนส์ปิดร่วง 114 จุด วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (31 ส.ค.) ที่ 16,528.03 จุด ร่วงลง 114.98 จุด หรือ -0.69%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,776.51 จุด ลดลง 51.81 จุด หรือ -1.07% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,972.18 จุด ลดลง 16.69 จุด หรือ -0.84%

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า สู่ระดับ 2.8% เทียบกับระดับ 3% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ มูดีส์ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อันเนื่องมาจากการส่งออกที่ซบเซาลง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึง GDP ไตรมาส 2/2558 ของสหรัฐที่ขยายตัว 3.7% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% อันเนื่องมาจากภาคธุรกิจเพิ่มการลงทุนและเพิ่มสต็อกสินค้า รวมทั้งการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคและการใช้จ่ายของรัฐบาล

หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง นำโดยหุ้นเมอร์ก แอนด์ โค และหุ้นเซลจีน คอร์ป ที่ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 2.7%, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง โดยหุ้นยาฮู และหุ้นเฟซบุ๊ก ต่างก็ร่วงลงอย่าง 1.7%, หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวผันผวน โดยหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ดิ่งลง 4.9% หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ร่วงลง 5%

ขณะที่หุ้นฟิลิปส์ 66 พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เข้าซื้อหุ้นในฟิลิปส์ 66 มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเบิร์กเชียร์ ร่วงลง 1.3% ส่วนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลง โดยหุ้นโบอิ้ง ลดลง 1.9% หุ้นเท็กซ์ตรอน ดิ่งลง 1.8% หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก ร่วงลง 1.4% และหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยี ปรับลง 1.3%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านก่อสร้างเดือนก.ค.นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

ขณะที่นายสแตนเลย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด เปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าในการกล่าวปาฐกถาที่เมืองแจ็คสัน โฮลในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายก็ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน หลังระบุว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

Back to top button