เกมเร็ว!โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นยังเป็นการเล่นแบบโต้กลับเร็ว พร้อมกับเอามุกเดิมๆ มาบิ้วลด์ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ แต่หารู้ไม่ แท้ที่จริงเป็นเพียงแค่การมโนของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า ก๊วนนี้ชอบสร้างโฆษณาชวนเชื่อ พอเผลอก็สาดหุ้นใส่เป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงไม่รู้ว่า ควรจะแสดงอาการ “ดีใจ” หรือ “เสียใจ” ที่เห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเจ้าค่ะ

*โดยแรงขับเคลื่อนหลักในครั้งนี้มาจากกองทุนอัดเงินเข้ามา 1 พันล้านบาท ฝรั่งตาน้ำข้าวช่วยดันอีก 390 ล้านบาท และปอบผีฟ้าช่วยเติมเข้ามาอีก 350 ล้านบาท ดัชนีถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1,382.41 จุด บวกไป 16.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.90 หมื่นล้านบาท ขณะที่แมงเม่าฉวยโอกาสขายทำกำไร 1.80 พันล้านบาท ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกแฮปปี้เป็นอย่างยิ่งนะจ๊ะ

*เนื่องจากบรรดาแมงเม่าอ่านเกมการทำราคาเที่ยวนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง และกิมมิคที่ทำให้นักลงทุนสถาบันย้อนกลับเข้ามาเล่นเกมเร็วอีกครั้งก็มาจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้ามาในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น “โมนิก้า” ถึงเห็นแรงซื้อกระจัดกระจายไปยังหุ้นเป้าหมาย ส่วนจะเป็นการเด้งขึ้นสั้นๆ แล้วเลิกทันที หรือเด้งขึ้นแบบแรลลี่ยาวๆ ต้องติดตามชมกันต่อไปนะจ๊ะ

*เหมือนกับกรณีของ AOT ทะยานขึ้นมาปิดที่ 276 บาท บวกไป 5 บาท ด้วยมูลค่า 2.10 พันล้านบาท พร้อมกับปรากฏรูปแบบแกว่งตัวขึ้นอย่างชัดเจนแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่บรรดากองทุนรู้อยู่แก่ใจว่า ทำไมถึงกลับเข้ามาซื้อ? บวกกับข้อมูลก่อนหน้านี้ยืนยันถึงความสามารถในการทำกำไรที่เปี่ยมล้น หุ้นก็ควรวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเก่า 320 บาท จริงไหมท่านผู้ชม!

*ประเด็นตรงนี้เหมือนกับหุ้น JAS กระชากขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะมาปิดที่ 5.65 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 7.60% ด้วยมูลค่า 1.30 พันล้านบาท มันเป็นเกมเร็วที่หลายคนไม่ทันได้สังเกต มาเห็นอีกทีราคาหุ้นก็ไปไกลมากๆ จึงเกิดอาการปอดบวมจนกลายเป็นปอดแหก “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องโหนกระแสกองทุนให้ทัน บวกกับหุ้นอ่อนตัวลงมาจากฐาน 6 บาท ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้วนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ IFEC ถ้าประเมินถึงความเสี่ยงในการทำธุรกิจ ควบคู่กับราคาหุ้นในกระดาน “โมนิก้า” สามารถออกตัวแทนได้ทันทีว่า ไม่ต้องวอรี่! เพราะทุกคนเห็นความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ่ายไฟเข้าระบบ กำไรที่เริ่มดีขึ้น หรือแม้กระทั่งแรงซื้อจำนวนมากที่ไหลเข้ามาเป็นระยะ ฯลฯ มันคือตัวแปรที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.90 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.30%  ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นแบบนี้..มีสิทธิ์ถึงถึงยอดเดิม 12 บาทนะตัวเอง

*สำหรับหุ้นเก็งกำไรพิมพ์นิยมอย่าง AJD ยังคงมีข่าวคราวใหม่ๆ ออกมาให้นักเล่นได้ยลโฉมกันตลอดเวลา พร้อมกับทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องวาดฝันไปไกลแสนไกลนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนว่า กระแสในตลาดหุ้นจะให้น้ำหนักเกี่ยวกับพัฒนาการของธุรกิจชนิดสุดติ่งกระดิ่งแมว วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.38 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่า 690 ล้านบาท เหมือนเป็นการเซ็ตเกมกันใหม่นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ CSS ทุกอย่างยังดีเหมือนเดิม และมีข่าวดีโผล่มาให้ชื่นใจ แต่กลับโดนสาดเสียเทเสีย จนหุ้นร่วงเสียทรงไปพักใหญ่ๆ ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.74 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่า 111 ล้านบาท ทั้งที่ยอดเดิมของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 8 บาท “โมนิก้า” ฟันธงลงไปได้ทันทีว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องของความมั่นใจในการตั้งเสา 3G และ 4G บวกกับหุ้นเพิ่งขึ้นแรกเป็นวันแรก..วันนี้น่าจะมีอะไรดีๆ ออกมาให้ดูอีกนะคะ

*จริงๆ “โมนิก้า” ไม่อยากคอมเม้นท์ถึงหุ้น ML และ MIDA สักเท่าไหร่ เพราะรูปแบบการออกหมัดที่เห็นได้รอบนี้ ยังเป็นการออกสเต็ปพื้นๆ พร้อมกับชกลมโชว์กองเชียร์ไปวันๆ เนื้อหาสาระเรื่องทุนญี่ปุ่นสนใจออกมาให้เห็นเนืองๆ สุดท้ายก็หายไปกับสายลมทุกที ล่าสุดมีการขุดประเด็นนี้ขึ้นมาเล่นใหม่อีกรอบ และดูเหมือนจะได้การตอบรับที่ดีเสียด้วย หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.02 บาท บวกไป 0.46 บาท หรือขึ้นไป 29.50% ด้วยมูลค่า 320 ล้านบาท ส่วนรายหลังปิดที่ 1.25 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 18% ด้วยมูลค่า 280 ล้านบาท มันเป็นเกมที่แมงเม่าต้องประเมินความเสี่ยงกันเอาเองนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ ECL ออกข่าวในทำนองนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ไมมีแอ็กชั่นใดๆ เกิดขึ้นอีกเลย “โมนิก้า” เม้าท์ได้ทันทีว่า หนังเรื่องเก่าที่ฉายซ้ำไปมา แต่ยังคงทำให้ทุกคนเคลิบเคลิ้ม ซึ่งเปรียบเหมือนกับบทประพันธ์สุดคลาสสิคอย่างบ้านทรายทอง ทำออกมาตั้งหลายเวอร์ชั่น ก็ยังสะกดจิตนักดูจอแก้วได้เหมือนเดิม ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.97 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 18% มันเป็นจังหวะของการเล่นตามกระแส ไม่มีอะไรเป็นพิเศษอย่างที่เม้าท์กันหรอกค่ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ LIT  ซึ่งเป็นหุ้นที่ทำมาหากินกับรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งพอร์ตสินเชื่อส่วนใหญ่อยู่กับหน่วยงานราชการ จึงเหมือนเป็นการอธิบายถึงความมั่นคงในการทำธุรกิจไปในตัว และเมื่อใดก็ตามที่มีแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา หุ้นตัวนี้ย่อมได้รับผลดีตามไปด้วยอย่างแน่นอน ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.80 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 172 ล้านบาท มีโอกาสวิ่งกลับไปหายอดเก่า 9 บาทเหมือนกันเจ้าค่ะ