SSP แรลลี่ยาว! บวกอีก 8% นิวไฮในรอบ 3 ปี-ลุ้นกำไรปีนี้ทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่อง
SSP แรลลี่ยาว! บวกอีก 8% นิวไฮในรอบ 3 ปี-ลุ้นกำไรปีนี้ทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP ณ เวลา 15.73 น. อยู่ที่ระดับ 10.10 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 8.02% ด้วยมูลซื้อขาย 178.43 ล้านบาท ราคาวิ่งแรงในรอบ 3 ปี โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 10.20 บาท เมื่อวันที่ 6 พ.ย.60 คาดเก็งกำไรผลงานโตเด่นต่อเนื่อง
โดยก่อนหน้า นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 227.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 144 ล้านบาท และมีรายได้รวม 572.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.70% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 398.50 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2563 มีกำไรสุทธิ 594.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.80% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 428.50 ล้านบาท และมีรายได้ 1,470.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 1,115.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโต เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากโครงการเดิม และโครงการใหม่ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ในส่วนโครงการ Yamaga ขนาด 30 เมกะวัตต์ (MW) หลังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ก่อนกำหนด ซึ่งไตรมาส 3/2563 รับรู้ได้เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก
“ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้อย่างเต็มที่จากโครงการใหม่ ๆ ที่เข้าไปลงทุนเพิ่มเติม โดยบริษัทมีการรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มประเทศเวียดนามและมองโกเลีย รวม 55 เมกะวัตต์ ตลอดจนโรงไฟฟ้าซึ่งเปิดดำเนินการระหว่างปี 2561 ทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นรับรู้รายได้เต็มปี ส่งผลให้ในปัจจุบัน SSP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาในมือรวม 142 เมกะวัตต์” นายวรุตม์ กล่าว
ส่วนแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี 2563 คาดว่ายังเติบโตได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากปี 2563 มีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าโครงการ Yamaga อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 จะมีการรับรู้รายได้ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ขนาด 20 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ในไตรมาส 3/2564 และโครงการพลังงานลมขนาด 48 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม จะเริ่ม COD ในไตรมาส 4/2564 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 2 ขนาด 17 เมกะวัตต์ ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการและคาดว่าจะ COD ได้ในปี 2566
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้ามองหาโครงการใหม่มาเติมในพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับการผลักดันรายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดมาตลอด โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักต้องการมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าระดับ 400 เมกะวัตต์ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า