LEO ทะยานไม่หยุด! บวกอีก 6% รับค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์พุ่งต่อเนื่อง-แนะซื้อเป้าสูง7.30 บ.
LEO ทะยานไม่หยุด! บวกอีก 6% รับค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์พุ่งต่อเนื่อง-แนะซื้อเป้าสูง7.30 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ณ เวลา 10.42 น. อยู่ที่ระดับ 6.10 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 6.09% ด้วยมูลค่าซื้อชาย 219.70 ล้านบาท
บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(25 พ.ย.63) ว่า LEO แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 7.30 บาท โดยประเมินว่าผู้ประกอบการทั่วโลกจะเริ่มการสั่งซื้อสินค้าเพื่อ Restock ครั้งใหญ่ภายหลังมีวัคซีนโควิด-19 และเศรษฐกิจโลกจะเริ่มเดินหน้าอีกครั้ง สะท้อนมายังค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ที่ปรับขึ้นแรงต่อเนื่อง (Shanghai Containerized Freight index +137% จากจุดต่ำสุดของปีนี้ในเดือน เม.ย.2563)
สอดคล้องกับมุมมองของฝ่ายวิจัยฯ เคจีไอ (ไต้หวัน) ที่ประเมินจะเกิดการ Restock สินค้าครั้งใหญ่ โดยเฉพาะสินค้าประเภทสิ่งทอและยานยนต์ ที่ชะลอตัวไปในช่วงวิกฤตโควิด-19 สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มรองรับการเดินทางท่องเที่ยว รวมไปถึงวัฏจักรขาขึ้นรอบใหญ่ของอุปกรณ์ไอทีทั้งนี้รายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางเรือคิดเป็นราว 66% ของรายได้รวมใน 9M63
จากการวิเคราะห์งบการเงินของ LEO จะพบว่าสิ่งที่น่าสนใจของ LEO คือการเป็นธุรกิจประเภท “Asset light” คือไม่จำเป็นต้องมียานพาหนะสำหรับการขนส่ง (เรือ เครื่องบิน รถบรรทุก) เป็นของตัวเอง โดยจะมุ่งเน้นการทำธุรกิจในเชิงการให้บริการ โดยมีพันธมิตรด้านโลจิสติกส์อยู่ทั่วโลก จึงทำให้ LEO มีความเสี่ยงต่ำในกรณีที่เกิดวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรมขนส่ง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแบกต้นทุนคงที่ เช่น ค่าเสื่อมราคา และค่าซ่อมบำรุง นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกประการคือ ไม่รับความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของต้นทุนพลังงาน ที่เป็นความเสี่ยงหลักของธุรกิจโลจิสติกส์ เนื่องจาก LEO จะเป็นผู้ให้บริการโดยคิดค่าบริการในลักษณะ Cost plus
โดยธุรกิจ E-commerce ที่กำลังเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ เป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยเร่งมาจากวิกฤตโควิด-19 โดย LEO ได้รับอานิสงส์จากประเด็นนี้ผ่านทางธุรกิจขนส่งทางอากาศ (Air Freight) ที่มีสัดส่วนรายได้ราว 18% ของรายได้รวมใน 9M63 และมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นได้ เนื่องจากธุรกิจ E-commerce ยังมีโอกาสที่จะขยายตัวกินส่วนแบ่งของธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิมได้อีกมาก
อีกทั้งลงทุนธุรกิจให้บริการพื้นที่ “Self Storage” โดยปัจจุบันมีการให้บริการธุรกิจนี้แล้วแห่งหนึ่ง มีอัตราการเช่าราว 75% พื้นที่รวม 1,200 ตรม. (รายได้คิดเป็น 1% ของรายได้รวมใน 9M63) และจะลงทุนเพิ่มอีก 2 แห่ง (1 แห่งในปี 2564 และอีก 1 แห่งในปี 2565)