พาราสาวะถี
มีคำตอบทันทีทันใดไม่ต้องรอการสืบสวนสอบสวนต่อกรณีเหตุยิงการ์ดราษฎรและปาระเบิดไปป์บอมบ์บริเวณการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลยืนยันว่า เป็นการทะเลาะกันของการ์ดอาชีวะของกลุ่มราษฎร ไม่ได้มีการแฝงตัวไปสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด รีบสรุปเพื่อที่จะทำให้สังคมเห็นว่าในกลุ่มผู้ชุมนุมมีการพกอาวุธไม่ใช่การชุมนุมอย่างสันติอย่างนั้นใช่หรือไม่
อรชุน
มีคำตอบทันทีทันใดไม่ต้องรอการสืบสวนสอบสวนต่อกรณีเหตุยิงการ์ดราษฎรและปาระเบิดไปป์บอมบ์บริเวณการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลยืนยันว่า เป็นการทะเลาะกันของการ์ดอาชีวะของกลุ่มราษฎร ไม่ได้มีการแฝงตัวไปสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด รีบสรุปเพื่อที่จะทำให้สังคมเห็นว่าในกลุ่มผู้ชุมนุมมีการพกอาวุธไม่ใช่การชุมนุมอย่างสันติอย่างนั้นใช่หรือไม่
การแถลงในทันทีทันใดโดยไม่ต้องรอเวลาเพราะว่านี่มันง่ายต่อการที่จะโยนความผิดให้กับกลุ่มราษฎรอย่างนั้นหรือเปล่า ผิดกับกรณีเหตุปะทะที่แยกเกียกกายจนถึงวันนี้ จากที่มีกลุ่มราษฎรถูกยิงบาดเจ็บหลายรายยังจับมือใครดมไม่ได้ เช่นนี้จะทำให้สังคมเชื่อถือต่อการทำงานของคนสีกากีได้อย่างไร สุดท้ายก็เป็นได้แค่ขี้ข้าเผด็จการเหมือนอย่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวหา การเลือกปฏิบัติ ความไม่ยุติธรรมทั้งหลายคือต้นเหตุของการสร้างความปรองดองไม่สำเร็จ วาทกรรมรวมไทยสร้างชาติที่พ่นออกมาแค่นิทานหลอกเด็ก
กรณีที่เกิดขึ้นหากเจ้าหน้าที่ตั้งธงกันไว้อย่างนี้ ก็ยากที่จะหาทางประนีประนอมกันได้ต่อความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งก็คือการนัดหมายชุมนุมใหญ่อีกครั้งวันนี้ของกลุ่มราษฎร ขณะที่ความจริงจากเหตุการณ์ปะทะครั้งนี้ มีแถลงการณ์จากกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตยหรือกลุ่มการ์ดอาชีวะที่ดูแลการชุมนุมด้วยความเรียบร้อยมาโดยตลอดก่อนหน้านี้ เป็นข้อมูลที่ต่างจากการสรุปของฝ่ายเจ้าหน้าที่อย่างสิ้นเชิง เมื่อมีการย้ำว่ามีหลักฐานชัดสำหรับฝ่ายก่อเหตุ
โดยพบว่ากลุ่มคนจากฝ่ายที่ต้องการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยได้แฝงตัวเข้ามาในกลุ่มอาชีวะกลุ่มหนึ่ง เพื่อก่อความไม่สงบ สร้างบรรยากาศความไม่ปลอดภัยแก่ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยมีเพียงมือเปล่าไม่มีอาวุธร้ายแรงใดถูกกระทำอย่างโหดร้ายอุกอาจ ซึ่งฟันเฟืองประชาธิปไตยจะยืนหยัดในการต่อสู้อย่างสันติปราศจากอาวุธต่อไป และขอให้ผู้ที่สร้างสถานการณ์หรือมีส่วนรู้เห็นออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
เป็นข้อเรียกร้องแบบแมน ๆ แต่ประสาอีแอบทั้งหลายคงไม่มีใครกล้าจะเสนอหน้ามาแสดงความรับผิดชอบ และการชุมนุมที่หน้าสำนักงานใหญ่ไทยพาณิชย์รอบนี้ มีจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือมีกลุ่มการ์ดอาสาที่มารวมตัวกันเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นผู้ที่มีอาชีพในการรักษาความปลอดภัยโดยตรง หนึ่งในนั้นคือ “การ์ดรบพิเศษ” ที่เป็นอดีตทหารหมวกแดงซึ่งหันมาเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย คนเหล่านี้นัดรวมตัวกัน เสียสละเวลามาด้วยใจ มาเพื่อดูแลความเรียบร้อยให้ม็อบเป็นไปอย่างสันติ
สิ่งที่น่าสนใจเมื่อฟังจากคำพูดของแกนนำกลุ่มการ์ดรบพิเศษก็คือ คนที่มาเข้าร่วมเป็นการ์ดอาสาชุดนี้จำนวนหนึ่งเคยเป็นทหารรบพิเศษ เหตุที่ทำให้ตัดสินใจต้องออกมายืนอยู่ข้างคนรุ่นใหม่ เพราะทนไม่ได้กับความไม่ยุติธรรม ที่คนโดยทั่วไปมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่แตกต่างกันนั้น คนที่มีหัวใจเป็นธรรมไม่มีใครยอมรับได้
กรณีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยนั้น ในสภาภาพของความไม่จริงใจจากฝ่ายกุมอำนาจก็สะท้อนผ่าน การเล่นเกมปฏิเสธญัตติด่วนเรื่องการยิงในม็อบราษฎรที่เสนอโดย วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงรายพรรคเพื่อไทย สุดท้ายต้องจบลงที่การนับองค์ประชุม ไม่แปลกใจต่อท่าทีการแสดงออกของคนในพรรคสืบทอดอำนาจ เพราะการเลือกใช้คนที่มีต้นทุนต่ำมาเคลื่อนไหวตอบโต้ก็ทำให้เห็นกระบวนการความคิดของฝ่ายสืบทอดอำนาจแล้วว่าเป็นอย่างไร
ในอีกด้าน 13 องค์กรภาคประชาสังคมระหว่างประเทศออกแถลงการณ์ร่วมถึงทางการไทยเกี่ยวกับการชุมนุมของขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในวันที่ 17 และ 25 พฤศจิกายน ส่งข้อเสนอแนะ 4 ข้อ เพื่อเรียกร้องรัฐบาลไทยให้ความเคารพ คุ้มครอง และสนับสนุนการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ เพื่อให้สอดคล้องตามพันธกรณีระหว่างประเทศของไทยที่มีต่อกติกา ICCPR และกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เขียนข่าวรอได้เลยว่าคำตอบจากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยจะเป็นอย่างไร
เป็นเรื่องภายในของไทย สุดท้ายก็จะยกเอาเหตุรุนแรงมากล่าวอ้างว่าไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยสงบแต่อย่างใด มาตอบโต้ข้อกล่าวหาจากต่างชาติ แต่สิ่งที่พึงตระหนักก็คือ แม้องค์กรเหล่านั้นจะไม่ออกมาโต้กลับ แต่ปฏิกิริยาของรัฐบาลจากแต่ละประเทศ ย่อมมีผลต่อความสัมพันธ์และความร่วมมืออื่น ๆ แน่นอนว่าตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมานั้น ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจย่อมได้สัมผัสกับอาการหน้าชื่นอกตรมมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ไม่เพียงแต่ 13 องค์กรดังกล่าวเท่านั้น ล่าสุด Ann Linde รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ก็ได้ตอบคำถามสมาชิกรัฐสภาสวีเดน Olle Thorell ที่ว่า มีหนทางใดบ้างที่รัฐมนตรีจะทำให้ทั้งประเทศสวีเดนและสหภาพยุโรปออกมาตอบรับ และช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรง รวมไปถึงสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย โดยสิ่งที่รัฐมนตรีหญิงรายนี้มองเห็นก็คือ กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประกอบด้วยเยาวชน ซึ่งออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและต้องการให้เกิดการปฏิรูปทางการเมือง
ที่ต้องขีดเส้นใต้ก็คือ รัฐไทยมีหน้าที่ที่จะต้องสร้างหลักประกันและเปิดโอกาสให้มีการแสดงออกทางความคิดอย่างเสรี ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล สิ่งที่สวนทางกับการชี้แจงจากทางการไทยคงเป็นประเด็นที่ว่า ทางการสวีเดนโดยสถานทูตในไทยพร้อมด้วยตัวแทนจากประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปได้เฝ้าติดตามการพิจารณาคดีความ โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับเรื่องที่เกี่ยวกับการปกป้องรักษาสิทธิด้านมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิด ซึ่งฝ่ายรัฐไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
ยังมีกรณีที่พยายามทำให้คนลืมหรือเป็นโชคดีที่มีม็อบก็ไม่ทราบ เรื่องของกลางยาเค 11 ตันมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้าน คดีที่ไต้หวันจับยาเสพติดในประเทศขยายผลพบต้นทางมาจากไทยสุดท้ายของกลางจากยาเคกลายเป็นไตรโซเดียมฟอสเฟต สารเคมีใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและนม มีการแถลงข่าวแก้ตัวกันพัลวันก็อยู่ที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจว่าพอใจต่อคำชี้แจงเหล่านั้นหรือจำใจต้องปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น ปล่อยให้มันแปดเปื้อนอย่างนี้ มีรัฐมนตรีเพราะมันคือแป้งมาแล้ว จะมีรัฐมนตรีโซเดียมอีกคนจะเป็นไรไป เฮงซวยจริง ๆ