BIG เล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโต 10% คาดกำไรครึ่งปีหลังโตกระโดด
BIG เล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโต 10% คาดกำไรครึ่งปีหลังโตก้าวกระโดด ตั้งงบลงทุนปีนี้รวม 100 ลบ. เผยอยู่ระหว่างศึกษาขยายตลาด ตปท.
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับเป้ารายได้รวมปีนี้เป็นเติบโตมากกว่าเดิมที่คาดไว้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,450 ล้านบาท เนื่องจากงวด 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้จากขายสินค้ารวม 1,966 ล้านบาท เติบโตเกินกว่า 20% แล้ว และครึ่งหลังของปีที่ปกติเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพ
นอกจากนี้ ล่าสุด บริษัทยังทุ่มงบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท จัดงาน BIG CAMERA BIG PRO DAYS ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 1-6 ก.ย.58 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ตั้งเป้ายอดขายจากงานนี้ราว 100 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 4/58 บริษัทจะมีจัดแคมเปญใหญ่อีก 2 งาน อีเวนท์หลักก็คือ งานโฟโต้แฟร์ และบิ๊กโบนัส ซื้อสินค้าได้คูปองชิงโชค โดยทั้งปีใช้งบการตลาดราว 40 ล้านบาท ดังนั้น จึงคาดว่ายอดขายครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก
ขณะที่กำไรสุทธิครึ่งปีหลังก็คาดว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากครึ่งปีแรกทำกำไรแล้ว 143 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 57 ที่มีกำไร 137 ล้านบาท
ทั้งนี้ในปัจจุบันตลาดกล้องในประเทศไทยมีมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท มีสัดส่วนเป็นกล้องคอมแพ็ก 20% ถือว่านิ่งๆ ไม่เติบโต แต่ก็ไม่หดตัว และอีก 80% เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ ซึ่งในส่วนนี้เป็นกล้องมิลเลอร์เลสราว 70% และกล้อง DSLR อีก 30% โดยรายได้ของบริษัทมาจากกล้องมิลเลอเลส 30% และ DSLR 30% ส่วนกล้องคอมแพ็กอยู่ที่ 20% อีก 20% เป็นรายได้อื่นๆ เช่น อุปกรณ์ถ่ายภาพ และงานเซอร์วิส
สำหรับสินค้าใหม่ในปีนี้มีการทยอยออกมาเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้ากล้องเป็นไปตามความนิยม ดังนั้น สินค้าโมเดลหนึ่งจะมีระยะเวลา 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง ซึ่งแนวโน้มตลาดกล้องปี 59 น่าจะดีขึ้นจากช่วง 2-3 ปีก่อนหน้าที่ตกมาตลอดราว 30-40% ต่อปี ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/58 ยังหดตัวในอัตรา 2 หลัก แต่มาเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2/58 เนื่องจากกระแสการใช้กล้องเปลี่ยนไปแล้ว อาจจะยังมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอยู่บ้าง แต่เชื่อว่ากล้องจะไม่ถูกกระทบโดยตรง เพราะสามารถใช้คู่กับสมาร์ทโฟนที่ยังได้รับความนิยมอยู่
“ปี 59 คาดหวังภาวะเศรษฐกิจมากกว่า เพราะการท่องเที่ยวรัฐบาลไม่โปรโมทเลย อยู่ในตลาดที่ถูกจำกัดกับภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เนื่องจากผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าเราเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบช้า เช่น กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งกำลังซื้อยังมีอยู่ แต่ถ้านโยบายรัฐบาลออกมาคนที่มีรายน้อย แล้วมีรายได้มากขึ้น segment ระดับล่างก็จะขายดีขึ้น” นายธนสิทธิ์ กล่าว
โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 100 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาด 40 ล้านบาท และเปิดสาขาใหม่ 50 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 10 สาขา เปิดไปแล้ว 6-7 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 2-2.5 ล้านบาท ล่าสุด เปิดที่เซ็นทรัลเวสท์เกต ส่วนที่เหลือจะเปิดให้ครบตามแผนงานเพื่อให้สิ้นปีนี้มีสาขาเพิ่มเป็น 235 สาขา จากปัจจุบัน 230 สาขา เนื่องจากมีการปิดสาขาเดิมด้วยส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาขยายตลาดต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งที่ผ่านมาก็มีกลุ่มผู้ลงทุนเข้ามาติดต่อ แต่ขณะนี้ยังมองตลาดไทยยังมีศักยภาพสูงสุด และใหญ่ที่สุดในอาเซียน