EPG ขาขึ้นต่อเนื่อง! บวกอีก 7% นิวไฮรอบ 10 เดือน ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัวเด่น

EPG ขาขึ้นต่อเนื่อง! บวกอีก 7% นิวไฮรอบ 10 เดือน ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัวเด่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG  ณ เวลา 16.19 น. อยู่ที่ระดับ 6.20 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 6.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 93.16 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 10 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 6.35 บาท เมื่อวันที่ 20 ม.ค.63

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) กล่าวยืนยันว่า รายได้งวดปี 63/64 (เม.ย.63-มี.ค.64) จะลดลงไม่เกิน 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกงวดปี 63/64 (เม.ย.63-ก.ย.63) รายได้จะลดลงไปถึง 21.2% หรือมีรายได้ 4,281.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 5,434.8 ล้านบาท

เนื่องจากบริษัทมองว่าช่วงครึ่งปีหลังของปีบัญชี 63/64 (ต.ค.63-มี.ค.64) ทิศทางยอดขายจะฟื้นตัวได้ในทุกธุรกิจ โดยกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์จะเร่งตัวสูงขึ้นตามยอดขายยานยนต์ที่ฟื้นตัวจากการกลับมาผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ และยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นในต่างประเทศ

สำหรับธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น แม้ยอดขายในประเทศชะลอตัวบ้าง แต่ในสหรัฐอเมริกาเติบโต และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ยอดขายของกล่องใส่อาหารเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับปีก่อน

แผนการดำเนินงานของ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มุ่งเน้นการตลาดในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมทั้งในและต่างประเทศ โดยในสหรัฐอเมริกา ฉนวน Aeroflex เป็นสินค้าจำเป็น (Essential Product) จึงมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งการก่อสร้างโรงงานใหม่อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณงวดปี 64/65 (เม.ย.64-มี.ค.65) เชื่อว่าจะสร้างโอกาสในขยายตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการของการใช้วัคซีนโควิด-19 ที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้ฉนวนยางกันความร้อน/เย็น เช่น โรงงานวัคซีน และการขนส่งวัคซีน เป็นโอกาสในการทำตลาดของ Aeroflex เช่นกัน

สำหรับในญี่ปุ่น เริ่มเห็นความต้องการใช้ฉนวน Aeroflex ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 งวดปี 63/64 และมีโอกาสขยายตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดในประเทศชะลอตัวตามแนวโน้มการก่อสร้างในประเทศที่ลดลง

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas กลุ่มลูกค้า OEM (Original Equipment Manufacturer) มียอดสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากกลับมาผลิตยานยนต์ตามปกติ ธุรกิจในประเทศออสเตรเลียมียอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์เพิ่มขึ้นเนื่องจากการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติ จึงมีความต้องการใช้งานอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ เพื่อเพิ่มสมรรถนะ และความปลอดภัยในการขับขี่

อย่างไรก็ตาม Aeroklas ใช้ช่วงเวลาจากการที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ หยุดดำเนินการชั่วคราวจากวิกฤตโควิด-19 เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพด้านต่างๆ เตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาเปิดดำเนินงานตามปกติ จึงทำให้ Aeroklas มีต้นทุนการผลิตใหม่ที่ลดลง

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP ผู้บริโภคนิยมสั่งอาหารเดลิเวอร์รี่ หรือซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภท กล่องใส่อาหารมียอดคำสั่งซื้อต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอดขายของบริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นและคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการสนับสนุนโครงการของภาครัฐที่กระตุ้นการใช้จ่าย และการท่องเที่ยวภายในประเทศ เช่น โครงการคนละครึ่ง และโครงการเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น

“ทิศทางของธุรกิจต่างๆของบริษิทฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย และยกเลิกมาตรการปิดเมือง โดยเฉพาะในส่วนของตลาดต่างประเทศที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 60% ทั้งในประเทศสหรัฐ ประเทศจีน ประเทศออสเตรเลีย และในสหภาพยุโรป โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถผลักดันให้มาร์จิ้นสูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ทำได้ 28.9%”นายเฉลียว กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังวางงบลงทุนไว้ราว 300 ล้านบาทที่จะใช้ในการเข้าซื้อกิจการ โดยในปัจจุบันยังคงศึกษาการเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพในการเติบโต เพื่อที่จะเข้ามาผลักดันผลประกอบการของบริษัทให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะมีการรายงานความคืบหน้าอีกครั้งหากมีความชัดเจนในการศึกษาแล้ว

Back to top button