แก๊งบ่าย 2 โมง ที่เซี่ยงไฮ้พลวัต2015

2 ปีก่อน  ตลาดหุ้นไทยเคยมีกลุ่มพอร์ตโบรกเกอร์ (เจ้าของฉายา ผีปอบ) นิยมออกมาอาละวาดก่อนปิดตลาดบ่ายครึ่งชั่วโมงสุดท้าย จนถูกขนานนามว่า แก๊ง 4 โมงเย็น ปฏิบัติการเล่นงานตลาดจนปั่นป่วนทั้งทุบและดันนานพอสมควร จนที่สุด ก.ล.ต.ต้องออกมาตรการห้ามพอร์ตโบรกเกอร์เล่นซื้อขายแบบหักกลบในวันเดียว ทำให้พฤติกรรมดังกล่าวซาลง

ยามนี้ เกิดปรากฏการณ์ทำนองเดียวกัน ที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ เรียกว่าแก๊งบ่าย 2 โมง หมายถึงบรรดากองทุนหรือพอร์ตโบรกเกอร์ ที่ได้รับคำสั่งจาก ก.ล.ต.จีนเสียเอง ให้เข้ามาระดมซื้อพยุงราคาหุ้นใหญ่ที่ถูกเทขายหนักในภาคบ่ายของตลาด

ภาวะเช่นนี้เป็น“ดาบสอง” ที่ต่างจากเมื่อ 2 เดือนก่อน ที่ผู้จัดการกองทุนรวม ภายใต้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ธนาคารกลางของจีนอยู่เบื้องหลัง ได้รับสินเชื่อต้นทุนต่ำ หรือ “ดาบแรก” มาดันราคาหุ้นในตลาดในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม มาแล้ว ซึ่งได้ผลระยะสั้นๆ แต่ต่อมาก็ไม่สำเร็จต่อเนื่อง

ครั้งนี้ มีการระดมสรรพกำลังระลอกใหม่อีกช่องทางหนึ่ง โดยผู้บริหาร ก.ล.ต.จีน (CSRC- China Securities Regulatory Commission) โดยประธานใหญ่ เฉียว กัง ได้เรียกประชุมบริษัทหลักทรัพย์ใหญ่ 50 ราย เพื่อขอความร่วมมือ (ความหมายที่แท้ในเมืองจีน คือคำสั่งที่ห้ามขัดขืน) พยุงราคาหุ้นและดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ให้มีเสถียรภาพ มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้รีบาวด์กลับจากการร่วงแรงระหว่างวัน โดยได้รับเงินลงขันสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์ที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ปล่อยเงินกู้ผ่านกองทุนพยุงตลาด (rescue fund) ในวงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านหยวน หรือ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

วงเงินดังกล่าว น้อยกว่าวงเงินเดิมเมื่อเดือนมิถุนายนซึ่งสูงถึง 1.4 แสนล้านหยวน (2.19 หมื่นล้านดอลลาร์) ที่ทางการจีน สั่งการให้ CCBC ธนาคารพาณิชย์ใหญ่อันดับ 2 ของรัฐบาล ปล่อยเงินกู้ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนให้ไปพยุงตลาด  โดยในครั้งแรกนั้น หัวแรงหลักคือ ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ ไฟแนนซ์ คอร์ป (CSFC) ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยสินเชื่อซื้อขายหุ้นด้วยมาร์จิ้นขนาดใหญ่สุดของจีน

ครั้งนั้น แม้ว่า CCBC จะอ้างว่าวงเงินดังกล่าว มีจำนวนเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ธนาคาร แต่การที่วงเงินดังกล่าวไม่สามารถพยุงราคาหุ้นได้มากนัก และขยับตัวไม่ออกเมื่อหน้าตักหมด ต้องติดอยู่ในหุ้น ก็ทำให้ต้องตามมาย้ำให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังมากขึ้น

แก๊งบ่าย 2 โมง ที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้  เริ่มลงมือปฏิบัติการตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมในช่วงวันทำพิธีรำลึกชัยชนะในสงครามเอเชียบูรพาเหนือกองทัพญี่ปุ่น ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แต่เริ่มผลิดอกเป็นรูปธรรมต้นสัปดาห์นี้ เมื่อปรากฏชัดว่า แรงซื้อที่เข้ามากระแทกตลาดในทุกๆ บ่าย 2 โมง ได้สร้างโมเมนตัมสำคัญให้ตลาดบรรเทาความรุนแรง นับแต่พลิกจากการลบแรงมาเป็นย่อตัว และจากลบไม่มากกลายเป็นบวก  แนบเนียนกว่าเดิมมาก

พฤติกรรมของแก๊งบ่าย 2 โมง ของจีน ระบือไปในสื่อมวลชน โบรกเกอร์ ผู้จัดการกองทุน ต่างชาติ และรายย่อย ผลพวงที่ตามมา ทำให้วอลุ่มซื้อขายตอนเช้าของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ลดลง เพราะนักลงทุนต้องการรอความชัดเจนว่า เมื่อใดที่แก๊งบ่าย 2 โมงจะปฏิบัติการอาละวาด ตามภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์

ข้อเท็จจริงเหล่านี้ คนวงในตลาดเซี่ยงไฮ้ต่างพากัน “ปิดกันให้แซ่ด” ว่า แก๊งบ่าย 2 โมง มีจริง และทำหน้าที่เสมือนมาร์เก็ต เมกเกอร์โดยปริยาย

แก๊งบ่าย 2 โมง ทำให้เห็นว่า ราคาหุ้นบลูชิพที่เป็นเสาหลักของตลาด สามารถยืนหยัดแข็งแกร่งโต้มรสุมได้ดีขึ้น และเกิดพฤติกรรมต่อเนื่องไปยังกลุ่มนักลงทุนรายย่อยทั้งหมด 90 ล้านบัญชีในจีน ที่ต่างจะรอทิศทางที่ชัดเจนในการซื้อขายในช่วงที่แก๊งบ่าย 2 โมงออกอาละวาด

ปรากฏการณ์ที่รายย่อยในเซี่ยงไฮ้พากัน “ซื้อเช้า ขายบ่าย” กลายเป็นพฤติกรรมปกติที่สัมผัสได้

โบรกเกอร์ในเซี่ยงไฮ้อธิบายว่า แก๊งบ่าย 2 โมง มีส่วนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตลาด โดยเฉพาะความสัมพันธ์ให้เป็นแบบเกม “(แมว)ทอม และ(หนู)เจอร์รี่” ของการ์ตูนโทรทัศน์ฮอลลีวูดในอดีตที่แสนคุ้นเคย

เกมดังกล่าว เปิดช่องให้ กองทุน หรือ พอร์ตโบรกเกอร์ มีโอกาสในการชี้นำตลาดง่ายดายขึ้น เพราะรายย่อยนั้น ถูกจับขึงพืดด้วยมาตรการเข้มด้วย บัญชีมาร์จิ้น หรือ เครดิต บาลานซ์  จนมีผลทำให้มีวงเงินซื้อขายผ่านบัญชีมาร์จิ้น ลดฮวบฮาบมากถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐใน 2 สัปดาห์นี้ และทำให้แรงเหวี่ยงราคาหุ้นมีกรอบแคบลง

นักวิเคราะห์ในฮ่องกง ระบุว่า แก๊งบ่าย 2 โมงนี้ เปรียบได้กับ “ทีมชาติลุยหุ้น” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในช่วง 15 นาทีแรก และ 45 นาทีสุดท้าย ของการซื้อขายภาคบ่ายที่คึกคักกว่าภาคเช้า

การเข้าแทรกแซงตลาดหุ้นของทางการจีนระลอกใหม่นี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์บูรณาการ เคียงคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในช่วงเวลาปรับดุลยภาพเศรษฐกิจ แม้จะดูเสมือนเป็นกลไกอิสระจากกัน นับแต่มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เช่นลดดอกเบี้ยนโยบาย ละอัดฉีดเงินจากธนาคารกลาง มูลค่า 1.5 แสนล้านหยวน (2.36 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งเริ่มได้ผลแล้วบางส่วน จากการที่ปัจจัยชี้นำต่างๆ เช่น การผลิตไฟฟ้าและค่าระวางขนส่งทางรถไฟ ฟื้นตัวต่อเนื่องนับแต่เดือนส.ค. แม้กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ปรับตัวลง 2.9% เทียบกับปีก่อน รวมทั้งการลดและปรับค่าเงินหยวนให้เป็นกึ่งลอยตัวครั้งล่าสุด

จากนี้ไป จะได้เห็นนวัตกรรมของแก๊งบ่าย 2 โมงที่เซี่ยงไฮ้ ในอีกไม่นานเกินรอ ซึ่งคงต่างจากแก๊ง 4 โมงเย็นในตลาดหุ้นไทยที่ปิดตำนานไปแล้ว