“ไซมิส แอสเสท” จ่อเคาะราคา IPO พร้อมเปิดจองกลางเดือนนี้ ชูจุดแข็งธุรกิจโกรทต่อเนื่อง
"ไซมิส แอสเสท" จ่อเคาะราคา IPO พร้อมเปิดจองกลางเดือนนี้ ชูจุดแข็งธุรกิจโกรทต่อเนื่อง
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 961,547,300 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 961,547,300 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นประมาณ 13.5% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขาย IPO ครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 1,111,547,300 หุ้น คิดเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1,111,547,300 บาท
โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้จะนำเงินไปใช้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการ Blossom Condo@Fashions3, โครงการ Blossom Condo@TSH Station และโครงการ Above39 อีกทั้งชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อลดต้นทุนทางการเงินลง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ เช่น ธุรกิจร้านอาหาร เป็นต้น
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถประกาศจองซื้อหุ้น IPO และกำหนดราคาขายได้ในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้
สำหรับจุดเด่นและข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน ได้แก่ 1.มีทีมบริหารที่มีประสบการณ์และควาามเชี่ยวชาญในธุรกิจก่อสร้างกว่า 30 ปี ในการนำนวัตกรรมต่างๆมาประยุกต์กับการออกแบบและพัฒนาโครงการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการก่อสร้าง ทำให้สามารถควบคุมการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2559-2562 รายได้เติบโตเฉลี่ย 47.7% ต่อปี และต้นทุนเฉลี่ยลดลง 15% ภายในระยะเวลา 4 ปี
3.มีโมเดลการพัฒนาโครงการที่แตกต่างเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนา Branded Residence ที่มอบประสบการณ์การบริการของโรงแรมชั้นนำ ซึ่ง Branded Residence จะช่วยดึงดูดทั้งลุกค้าที่พักอาศัยเอง และลูกค้าที่เป็นนักลงทุน โดยจะมีบริการเพื่อปล่อยเช่าแบบครบวงจร อาทิ การจัดหาและคัดเลือกผู้เช่า
4.มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ยืดหยุ่น สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จึงดำเนินธุรกิจได้ดีทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและช่วงที่ตลาดชะลอตัว
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในมืออยู่ราว 13 โครงการ มูลค่ารวม 32,000 ล้านบาท ซึ่ง 80% จะอยู่ในทำเล CBD และ New CBD ขณะที่มียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ที่ 9,446 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/63 จนไปถึงปี 2566 ขณะที่ในปี 2564 บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีกราว 2 โครงการ มูลค่ารวม 5,981 ล้านบาท
“คาดว่าในปี 64 ธุรกิจเรายัง growth ต่อเนื่องจากในปี 63 แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ธุรกิจของเรายังเติบโตได้อยู่ อีกทั้งการเป็นธุรกิจที่เน้นสินค้าคุณภาพดีในราคาไม่แพง จะส่งผลให้ SA ยังมีความได้เปรียบคู่แข่งอยู่”
อนึ่ง SA ประกอบธุรกิจ 3 ประเภท ประกอบด้วย 1. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่าย ภายใต้ แบรนด์ The Collection, Siamese Exclusive, Siamese Gioia, Siamese, และ Blossom, Branded Residence : Wyndham, Ramada (The crowne Plaza และ Cassia by Banyan Tree อยู่ในระหว่างการเจรจนเพื่อเซ็นสัญญา) 2. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า โดยจัดสรรพื้นที่ในโครงการหรือห้องชุดที่มีอยู่มาเป็นพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์ และ 3. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการบริการ โดยพัฒนาอาคารในโครงการหรือห้องชุดที่มีอยู่ในโครงการมาให้บริการในลักษณะโรงแรมหรือเซอร์วิส เรสซิเดนซ์ นอกจากนี้ ยังมีบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น การบริหารนิติบุคคลอาคารชุด, นายหน้าจัดหาผู้เช่าห้องชุด เป็นต้น