ผู้ว่าฯ ททท. เบรก “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 2 หลังพบโรงแรม-ร้านค้ากว่า 500 แห่ง ส่อโกง!
ผู้ว่าฯ ททท. เบรก "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 2 หลังพบโรงแรม-ร้านค้ากว่า 500 แห่ง ส่อโกง! หากพบผิดจริง เตรียมดำเนินคดีขั้นสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตและร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำทุจริตเป็นจำนวนมาก ทำให้นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วน โดยระบุว่า ขณะนี้ ททท.ได้ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย เข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมและการทำธุรกรรมของโรงแรมและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้ และพบว่ามีโรงแรมและร้านค้าที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกันกว่า 500 แห่ง แบ่งเป็นโรงแรม 312 แห่ง และร้านค้าทุจริตเรื่องคูปองประมาณ 200 แห่ง โดยพบการกระทำที่เข้าข่ายความผิดถึง 6 รูปแบบเป็นอย่างต่ำ เช่น การใช้ส่วนต่างคูปองในโครงการ การตั้งราคาห้องพักสูงเกินจริง เปิดให้จองที่พักแต่ไม่ได้ไปพักจริง หรือการเปิดให้จองพักแต่โรงแรมยังไม่ได้เปิดให้บริการ
ทั้งนี้ ททท.มีรายชื่อโรงแรมและร้านอาหารต้องสงสัยทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบทุกกรณีโดยเร็วที่สุด หากพบว่า โรงแรมและร้านอาหารใดทำผิด หรือทุจริตจริง จะต้องถูกถอดออกจากโครงการ และขึ้นบัญชีดำ พร้อมกับดำเนินคดีทั้งแพ่ง และอาญา โดยใช้กฎหมายที่มีโทษขั้นสูงสุด
อย่างไรก็ตาม นายยุทธศักดิ์ ระบุว่า ได้รายงานเรื่องนี้ให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รับทราบแล้ว หากนายกรัฐมนตรี สอบถามในที่ประชุม ครม.ทาง รมว.การท่องเที่ยวฯ ก็มีข้อมูลพร้อมรายงาน โดยการตรวจสอบจะทำโดยเร็วที่สุด
“ส่วนการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ วันที่ 16 ธ.ค.นี้ ที่จะเปิดให้อีก 1 ล้านสิทธิ ก็คงต้องเลื่อนไปก่อน เพื่อดูผลสรุป และน่าจะกำหนดวันให้ลงทะเบียนรับสิทธิใหม่ได้อีกครั้ง ผ่านทางหน้าเว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกัน” ผู้ว่าฯ ททท. ระบุ