สลับตัวเล่น

*ทุกครั้งที่ดัชนีไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ จนวิ่งทะลุแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาขึ้นมาทีละจุด “โมนิก้า” มักรู้สึกยินดีมากกว่าการวิ่งแบบพรวดพราดทีเดียว เพราะมีบทเรียนให้เห็นอยู่เป็นประจำเมื่อหุ้นขึ้นแรงมักตามมาด้วยการถูกขายที่มากกว่าเสมอ แต่หากหุ้นค่อย ๆ ทำลายแนวต้านสำคัญพร้อมกับมีช่วงพักฐานเพื่อตั้งลำใหม่ จะทำให้ดัชนีแข็งแกร่งพร้อมรับแรงกระแทกได้มากกว่านะซิ !


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ทุกครั้งที่ดัชนีไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ จนวิ่งทะลุแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาขึ้นมาทีละจุด “โมนิก้า” มักรู้สึกยินดีมากกว่าการวิ่งแบบพรวดพราดทีเดียว เพราะมีบทเรียนให้เห็นอยู่เป็นประจำเมื่อหุ้นขึ้นแรงมักตามมาด้วยการถูกขายที่มากกว่าเสมอ แต่หากหุ้นค่อย ๆ ทำลายแนวต้านสำคัญพร้อมกับมีช่วงพักฐานเพื่อตั้งลำใหม่ จะทำให้ดัชนีแข็งแกร่งพร้อมรับแรงกระแทกได้มากกว่านะซิ !

*ถามว่าเดี๊ยนคิดอย่างไรเมื่อเห็นดัชนีบวกไป 13 จุด ก่อนจะลงมาปิดที่ 1,483.89 จุด บวกไป 1.80 จุด ด้วยมูลค่า 1.13 แสนล้านบาท “โมนิก้า” ขอตอบกลับไปในทันทีว่าถึงแม้ดัชนีจะขึ้นจนลงระหว่างวันอย่างน่าหวาดเสียว ก็ไม่ได้หมายความว่าไปต่ออีกไม่ได้ เพียงแต่อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติเมื่อดัชนีเข้าใกล้แนวต้านจิตวิทยา 1,500 จุด เพราะถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และยังเป็นตัวบ่งบอกความเชื่อมั่นของดัชนีในภายภาคหน้าพะยะค่ะ

*ประเด็นเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับไปลองนั่งทบทวนมากเป็นพิเศษเพื่อจะได้รู้ว่า การซื้อหุ้นเที่ยวนี้ต้องเจาะรายตัวจริง ๆ ไม่สามารถเล่นแบบเหวี่ยงแหได้อีกแล้ว เพราะการลงทุนครั้งนี้ “ตาดีได้ ตาร้ายเสีย” จึงต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ก่อนว่าหุ้นที่วิ่งแรงเว่อร์วังอลังการในเที่ยวนี้ มันมีทั้งหุ้นที่วิ่งจนโอเวอร์ และหุ้นที่วิ่งโดยมีปัจจัยพื้นฐานดีผสมปนเปกันไปเป็นจำนวนมากนะซี

*หุ้นที่จู่ ๆ ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นอย่าง BWG ทำเอาผู้คนในวงการตลาดหุ้นมองหน้ากันเลิ่กลั่กตกลงใครเป็นคนดันหุ้น ในเมื่อมติหลายฝ่ายก็บอกกันอย่างทนโท่ว่าทั้งปียังไม่โดดเด่น แต่หุ้นดันทะลึ่งวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.58 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 23.40% ด้วยมูลค่า 312.89 ล้านบาท หน้าตาเฉย และเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 0.53 บาท ถึงได้เห็นภาพทันทีว่าเสียวไส้เสียจริงจริ๊งงง

*ส่วนในรายของ ESSO ยังเป็นอะไรที่น่าติดตามเสียจริงจากราคาที่ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาแบบสโลว์ไลฟ์จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.20 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือ 3.80% ด้วยมูลค่า 1.06 พันล้านบาท ถือเป็นการยืนเหนือ 8 บาทได้อีกครั้ง แถมรอบนี้ดูดีกว่าที่ผ่านมาจากวอลุ่มที่เข้ามาหนาแน่น บวกกับองค์ประกอบทางเทคนิคแจ่มแจ๋ว “โมนิก้า” มองว่าตราบใดที่หุ้นยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้มันเป็นจังหวะที่ต้อง follow นะจะบอกให้

*ด้านหุ้น AMANAH หลังจากวิ่งทะลุ 3 บาทมาได้แรงซื้อก็ไม่มีแผ่ว “โมนิก้า” หันมาดูหุ้นตัวนี้ด้วยความสนใจที่ล้นปรี่ เพราะไม่มีอะไรต้องคิดให้มากความ แค่รู้ว่าพื้นฐานยังแข็งแกร่ง ราคาหุ้นก็ควรจะทะยานขึ้นไปอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.46 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 5.49% ด้วยมูลค่า 417.12 ล้านบาท ไม่ลองเสี่ยงดูสักตั้งแล้วจะเสียใจนะเจ้าคะ

*มาดูกันที่หุ้นเคราะห์ร้ายอย่าง DTAC ที่เกิดอาการสะดุดขาตัวเองได้ถูกจังหวะเสียจริ๊ง งานนี้นอกจากทำลูกค้าชวดรับสิทธิ “คนละครึ่ง” แล้ว ยังโดนกระแสวิจารณ์ถึงเรื่องมาตรการเยียวยาอีกกระทง เพราะสิ่งที่ชดเชยให้ลูกค้าดูยังไงก็ไม่ตอบโจทย์อยู่ดี จึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นจะลงมาปิดที่ 36.25 บาท ลบ 1 บาท หรือ 2.68% ด้วยมูลค่า 834.44 ล้านบาท ยังไงล่ะจ๊ะ

*ต่อกันที่หุ้นโลจิสติกส์ LEO สัญญาณทางเทคนิคสร้างฐานแน่นหนาเหนือระดับ 5.50 บาท กรอบของหุ้นในรอบนี้ถือเป็นการตอกย้ำทิศทางขาขึ้นรอบใหม่ชัดเจน ทำให้วานนี้ราคาหุ้นวิ่งมาปิดที่ระดับ 5.95 บวก 0.35 บาท หรือ 6.25% ด้วยมูลค่าซื้อชาย 162.05 ล้านบาท ส่วนผลงานไตรมาส 4/63 ลุ้นกำไรโต 40% ทั้งเทคนิคที่เป็นใจบวกพื้นฐานแน่นปึ้กขนาดนี้ “โมนิก้า” เชียร์ให้ใส่เกียร์เดินหน้าลงทุนเต็มที่เพราะยังเหลืออัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่สูงลิ่วถึง 7.30 บาท อีกโขเลยเจ้าค่ะ

*ด้าน KWG มีมือดีดันราคาขึ้นมาปิดชนซิลลิ่งที่ระดับ 0.87 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 29.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.5 ล้านบาท ทำเอาเดี๊ยนถึงกับต๊กกะใจ เพราะโดยธรรมชาติของหุ้นตัวนี้มีวอลุ่มการซื้อขายอยู่ที่เพียงหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทเท่านั้น แถมเมื่อดูผลประกอบการก็ยังน่าหนักใจเพราะยังส่อเค้าว่าจะขาดทุนต่อจากปี 62 ทำให้การขึ้นมาแบบมีเงื่อนงำในครั้งนี้ ดูจะเป็นเพียงแค่การวิ่งแบบประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น นาทีนี้แนะนำว่าอยู่ห่างไว้ปลอดภัยกว่านะเจ้าคะ

Back to top button