แดงเลือดสาด

*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอเปิดเผยความในใจ และอยากจะบอกแฟนคลับทุกคนว่า “เป็นห่วงพ่อ เป็นห่วงแม่ และเป็นห่วงเธอ” เพราะการกลับมาระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทุกวงการ พร้อมกับทำให้วิถีชีวิตที่กำลังจะกลับมาเป็นปกติ กลายเป็นเรื่องที่ร้องเพลงรอยาว ๆ ไปอีก 2-3 สัปดาห์  บวกกับความเสียหายทางเศรษฐกิจก็ยังประเมินไม่ได้แบบนี้..ท้อแท้ใจเหลือเกินเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอเปิดเผยความในใจ และอยากจะบอกแฟนคลับทุกคนว่า “เป็นห่วงพ่อ เป็นห่วงแม่ และเป็นห่วงเธอ” เพราะการกลับมาระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทุกวงการ พร้อมกับทำให้วิถีชีวิตที่กำลังจะกลับมาเป็นปกติ กลายเป็นเรื่องที่ร้องเพลงรอยาว ๆ ไปอีก 2-3 สัปดาห์  บวกกับความเสียหายทางเศรษฐกิจก็ยังประเมินไม่ได้แบบนี้..ท้อแท้ใจเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ยิ่งวานนี้เห็นดัชนีทำท่ามีแรงฮึดสู้ช่วงเช้า แต่ตกบ่ายกลับโดนถล่มจมแผ่นดิน ยิ่งเป็นแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้ผู้คนจิตตกมากขึ้นกว่าเดิม “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่เห็นดัชนีลงมายืนปิดที่ 1,401.78 จุด ลบไป 80.60 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.29 แสนล้านบาท เพราะมันเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้ทุกคนต้องทิ้งหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เคยเห็นกันมาแล้วในช่วงที่มีการระบาดครั้งแรกนะจ๊ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ฝรั่งหัวทองดอดเข้ามาเก็บหุ้นไปกว่า  3.80 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ไม่กลัว ! เพราะเข้าใจมูฟเมนต์ของเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างทะลุปรุโปร่ง และยังมองเห็นโอกาสของการลงทุนยังเปิดกว้างสำหรับคนที่มองเกมหุ้นในอนาคตออก “โมนิก้า” ถึงเห็นด้วยที่รายย่อยกระโจนเข้าไปช้อนหุ้นเข้าพอร์ตมากถึง 7.80 พันล้านบาท เพราะสามารถเล่นรอบได้สบาย ๆ พะยะค่ะ

*น่าเห็นใจสุด ๆ คงเป็นรายของแบงก์สีเขียว KBANK โดนถล่มขายอย่างหนักหน่วง จนราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ระดับ 110 บาท ลบไป 9 บาท หรือลงไป 7.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.21 พันล้านบาท มันเป็นช็อตที่เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เพราะเป็นแบงก์ที่มีลูกค้าเอสเอ็มอีเยอะสุด บวกกับช่วงที่ผ่านมาต้องสำรองหนี้จากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นจำนวนมาก พวกกองทุนเลยกังวลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดซ้ำสองเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องความกังวลขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นขายไก่ขายหมูอย่าง CPF กันสักหน่อย เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า กำไรปี 63 นิวไฮ และในปี 64 ก็น่าจะนิวไฮเช่นกัน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทำให้ทุกคนเลือกใช้วิธีปลอดภัยไว้ก่อน วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 25.75 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 6.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.08 พันล้านบาท แบบช่วยไม่ได้จริง ๆ นะคะ

*ขนาดหุ้นไฟฟ้าทรงสวยอย่าง GPSC ยังไม่รอดสันดอนเลย “โมนิก้า” ถึงไม่อยากหวังอะไรมากไปกว่านี้ ผนวกกับแรงรับก็เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ หุ้นถึงหลุดแนวรับสำคัญหมดทุกแนว ก่อนจะลงมาปิดต่ำสุดของวันที่ระดับ 65 บาท ลบไป 5.50 บาท ลบไป 7.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.82 พันล้านบาท กลายเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นอาจทรุดตัวอีกในวันนี้ เพราะนักเล่นขาประจำเริ่มถอดใจนะซี

*อาการที่เกิดขึ้นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบหันมามองหุ้น BTS เพื่อชี้ให้เห็นปัญหาหลายอย่างดันถาโถมเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยเฉพาะในมุมของเวิร์กฟอร์มโฮมที่กำลังจะเกิดขึ้น ล้วนส่งผลกระทบกำไรของบริษัทเต็ม ๆ  วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 9.60 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.80 พันล้านบาทอย่างง่ายดาย และมีสิทธิ์ไหลลงมาใต้ 9 บาทอีกครั้ง หากสถานการณ์โควิดยังไม่ดีขึ้นนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ AAV ทำท่าเหมือนจะไปได้สวย และกำลังเข้าสู่โหมดโกยเงินไม่ยั้งในช่วงไฮซีซั่น แต่ทุกอย่างก็พังทลายไม่เป็นท่าในชั่วพริบตาเดียว พร้อมกับฉุดราคาหุ้นลงมาปิดที่ 2.40 บาท ลบไป 0.28 บาท หรือลงไป 10.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 486 ล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำแนวคิดส่วนตัวของ “โมนิก้า” ที่ว่า หุ้นสายการบินไม่เคยทำให้ใครรวยไงล่ะค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่แปลกใจที่หุ้นขนมหวาน AU โดนถล่มซะเละเทะ ! เพราะเมื่อดูตามเนื้อผ้าจะเห็นว่า ครั้งก่อนที่โควิดมา หุ้นตัวนี้ก็เละตุ้มเป๊ะ พอโควิดมาอีกในครั้งนี้ หุ้นจะมีลักษณะเละเป็นโจ๊ก ก็คงไม่มีอะไรต้องตกใจ เพราะก๊วนวีไอที่ถือหุ้นเป็นพวกขวัญอ่อน จึงอยากให้คุณ ๆ ท่าน ๆ มองราคาปิดที่ 9.75 บาท ลบไป 0.95 บาท หรือลงไป 8.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 174 ล้านบาท เทียบกับเที่ยวก่อนลงมาแถว 8.75 บาท น่าจัดสักดอกไหมเอ่ย ?

Back to top button