พาราสาวะถี
ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิดขีดวงเฉพาะสมุทรสาครจังหวัดเดียวไม่รู้ว่าจะไปหยุดอยู่ที่จำนวนเท่าใด ไม่นับรวมจำนวนคนที่เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวแล้วติดเชื้อซึ่งกระจายตัวไปยังหลายจังหวัด และไม่รู้ว่ากระบวนการสืบสวนโรคจะไล่ตามทันการระบาดระลอกสองนี้หรือไม่ ดังนั้น คงต้องยอมรับว่าประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ภาวะซูเปอร์สเปรดเดอร์ และเป็นภาระหน้าที่หลักของทีมงานทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จะต้องแอ็กชันกันอย่างเต็มที่
อรชุน
ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิดขีดวงเฉพาะสมุทรสาครจังหวัดเดียวไม่รู้ว่าจะไปหยุดอยู่ที่จำนวนเท่าใด ไม่นับรวมจำนวนคนที่เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวแล้วติดเชื้อซึ่งกระจายตัวไปยังหลายจังหวัด และไม่รู้ว่ากระบวนการสืบสวนโรคจะไล่ตามทันการระบาดระลอกสองนี้หรือไม่ ดังนั้น คงต้องยอมรับว่าประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ภาวะซูเปอร์สเปรดเดอร์ และเป็นภาระหน้าที่หลักของทีมงานทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จะต้องแอ็กชันกันอย่างเต็มที่
ส่วนฝ่ายการเมืองพวกหวังเอาหน้าทั้งหลาย ก็ควรที่จะหลีกทางปล่อยให้ผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญได้ทำงานกันตามวิถีที่ควรจะเป็น แน่นอนว่าในฟากของประชาชน ผลจากความร่วมมือที่เคยตั้งการ์ดสูงกันก่อนหน้า จำเป็นที่จะต้องกลับมาใช้ชีวิตภายใต้ความรัดกุมกันอีกรอบสวมหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยร้อยเปอร์เซ็นต์ เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและล้างมือบ่อย ๆ พร้อมกับการคอยลุ้นว่าจะมีผู้ติดเชื้อเข้ามาอยู่ในภาวะแวดล้อมที่ใกล้ตัวหรือไม่
ไม่อยากซ้ำเติมแต่ได้เห็นท่าทีของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและคณะต่อกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงไม่พูดถึงการแสวงหาความรับผิดชอบจากผู้กระทำผิดที่มีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ จะอ้างว่าช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนระยะทางยาวมันก็ใช่ แต่ถามว่าการที่แรงงานผิดกฎหมายเดินทางจากแนวชายแดนมาถึงเมืองประมงดงโรงงานใกล้กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องนั้นจะไม่รู้ไม่เห็นกันเชียวหรือ
ยกตัวอย่างสั้น ๆ ง่าย ๆ หากมีการยอมเสียค่าใช้จ่ายในการอำนวยความสะดวกเพื่อให้ได้เข้ามาทำงานหัวละ 5 พันบาทแค่ 10 คนต่อวัน เงินสีดำขนาดนี้ตีเป็นมูลค่าของการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นจำนวนเท่าไหร่ สิ่งสำคัญคือคนเหล่านั้นไร้จิตสำนึกที่จะห่วงคนส่วนใหญ่ของประเทศ การที่ได้ฟังผู้มีอำนาจพล่ามบอกว่าจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและอาจต้องถึงขั้นล็อกดาวน์เพื่อรักษาคนส่วนใหญ่ มันเป็นคำแก้ตัวเมื่อสายไปเสียแล้วหรือเปล่า
กรณีนี้จะอ้างว่าไม่มีใครเป็นฝ่ายผิดหรือไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลคงไม่ได้ ด้วยความที่ไม่ยอมฟังเสียงทักท้วงโดยเฉพาะฝ่ายเห็นต่างหรือไม่ จึงทำให้ละเลยต่อความเสี่ยงที่คนซึ่งไม่ได้หวังสร้างภาพลักษณ์คอยตักเตือน เรื่องของข้อกังวลซูเปอร์สเปรดเดอร์จากแรงงานต่างด้าวในจังหวัดสมุทรสาครนั้น พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยได้เสนอแนะมาแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน ช่วงจังหวะที่ประเทศไทยมีการระบาดอย่างรุนแรงจากเคสสนามมวยและสถานบันเทิง
โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน พิจารณ์ได้โพสต์เสนอความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จากการไปเยี่ยมประชาชนในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีแรงงานต่างชาติมากถึง 2 แสนกว่าราย หรือเกือบเท่าจำนวนแรงงานต่างชาติในประเทศสิงคโปร์ ภายในชุมชน 43 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ที่มีความแออัดและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคในลักษณะเดียวกับประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้น ยังพบว่าแรงงานต่างด้าวบางส่วนไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย
ข้อกังวลของพิจารณ์ในเวลานั้นก็คือ รัฐบาลควรมีแนวทางและมาตรการที่ชัดเจนในการดูแลคนกลุ่มนี้ ภายใต้หลักคิดสำคัญในการกำหนดมาตรการคือ การช่วยเหลือดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนที่บุคคลหนึ่งควรได้รับ ในฐานะฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน บนพื้นฐานการควบคุมและป้องกันจุดเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค โดยที่เจ้าตัวได้มีการเสนอ 6 มาตรการด้วย อันได้แก่ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ความเข้าใจในการป้องกันตนเองแก่แรงงานต่างชาติในภาษาที่หลากหลาย
การสร้างเครือข่ายนายจ้างในการติดตามดูแลสุขภาพของลูกจ้างต่างชาติ การสนับสนุนเรื่องอาหารและความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่แรงงานต่างชาติที่ตกงานและไม่สามารถกลับประเทศต้นทางได้ การสนับสนุนด้านสถานที่สำหรับแรงงานที่มีความจำเป็นในการกักตัวเอง การดำเนินมาตรการเชิงรุกในการสุ่มตรวจหาเชื้อภายในชุมชนที่มีแรงงานต่างชาติอาศัยจำนวนมาก และการกำหนดมาตรการฉุกเฉินสำหรับการตรวจโรคและดูแลรักษาแรงงานต่างชาติ
โดยมาตรการสุดท้ายนั้นเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเข้าระบบการรักษาและลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อโรค หากได้มีการดำเนินการในลักษณะดังว่า สถานการณ์ก็ไม่น่าจะเดินมาถึงจุดนี้ ซึ่งก็พอจะเข้าใจได้เพราะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานด้านนี้โดยตรงยังเอ่ยปากบอกว่าแค่โรคกระจอก ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ต่อการเผชิญเหตุได้เป็นอย่างดี มิหนำซ้ำ ยังมีความพยายามที่จะลดวันกักตัวอีกต่างหาก เพราะหวังจะดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวมาอุ้มเศรษฐกิจ
วิธีคิดบนความอับจนที่จะแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจนั้น มันจึงไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง จริงอยู่ประเทศไทยอาจได้รับเสียงชื่นชมจนเป็นเหตุให้คนในขบวนการสืบทอดอำนาจใช้เป็นเหตุผลในการยกหางตัวเอง แต่สถานการณ์โดยรวมทั้งโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้เป็นอย่างบ้านเรา พอตั้งเป้าที่จะหาหนทางเรื่องการหาเงินเข้าประเทศ ทั้งที่โดยภาพรวมแล้วเป็นไปได้ยาก มันจึงเป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้ละเลยหรือมองข้ามต่อความสุ่มเสี่ยงที่เป็นต้นตอของการระบาดใหม่ครั้งนี้หรือไม่
ความจริงอีกประการที่ผู้มีอำนาจต้องเข้าใจและรีบหาหนทางแก้ไขนั่นก็คือ ความตระหนกตกใจของประชาชนส่วนใหญ่ที่แม้จะมีการรับมือกันมาด้วยดีตลอดเกือบ 1 ปี แต่พอมีเหตุที่สมุทรสาครตูมเดียว คนจำนวนไม่น้อยต่างพากันคิดไปไกลว่า กรณีนี้จะเป็นจุดตั้งต้นของการระบาดหนักเหมือนกับที่ตลาดค้าสัตว์อู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเจ้าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้หรือไม่ ไอโอที่เคยใช้ทำแต่งานการเมือง ลองหันมาใช้กับการสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกรณีนี้เพียงอย่างเดียวจะได้ไหม หรือถนัดแต่ที่จะให้ร้ายและทำลายฝ่ายเห็นต่างเพียงอย่างเดียว