เศรษฐกิจบนแผ่นดินไหว
ปี 2563 จบลงด้วยโควิดรอบใหม่ ที่ยังไม่รู้จะลามแค่ไหน แต่การท่องเที่ยวใช้จ่ายที่คาดหวังไว้ ไม่เป็นดังหวังแน่นอน รัฐบาลต้องอัดวันหยุดปี 64 ทั้งวันตรุษจีน วันบุญบั้งไฟ เอกชนที่ไหนจะหยุดตามท่านได้ ก็มีแต่ส่งเสริมให้ข้าราชการหลังยาว
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
ปี 2563 จบลงด้วยโควิดรอบใหม่ ที่ยังไม่รู้จะลามแค่ไหน แต่การท่องเที่ยวใช้จ่ายที่คาดหวังไว้ ไม่เป็นดังหวังแน่นอน รัฐบาลต้องอัดวันหยุดปี 64 ทั้งวันตรุษจีน วันบุญบั้งไฟ เอกชนที่ไหนจะหยุดตามท่านได้ ก็มีแต่ส่งเสริมให้ข้าราชการหลังยาว
ไม่ว่ามองโควิดหรือเศรษฐกิจการเมือง ปี 2563 ล้วนเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เกินจะคาดฝัน โควิด disrupt เปลี่ยนแปลงทั้งโลก เปลี่ยนภาคเศรษฐกิจ รุ่งร่วงพลิกผัน ในทางการเมืองถ้ากล่าวเฉพาะประเทศไทย ม็อบคนรุ่นใหม่ ก็ไปถึงเพดานที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ตั้งแต่หลัง 2475
โดยความคาดไม่ถึงนี้ ยังรวมถึงว่า ไม่สามารถคาดได้ ปี 2564 จะเป็นอย่างไร
ปรากฏการณ์ม็อบคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่า “แผ่นดินไหว” เป็นการเคลื่อนไหวทางความคิด ค่านิยม วัฒนธรรม ต่อต้านโครงสร้างอำนาจอนุรักษนิยมในทุกด้าน ไม่ใช่การออกมาม็อบปักหลักยึดสถานที่ไล่รัฐบาล จึงไม่ใช่ม็อบที่จะปราบง่าย เพราะมีความหลากหลาย ตั้งแต่การเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปจน “นักเรียนเลว” ยกเลิกการบังคับเสื้อผ้าหน้าผม เครื่องแต่งกาย หลักสูตรการศึกษา หรือการทำป้าย “ยกเลิก 112” ผ้าห่อศพผู้ลี้ภัย ที่กลายเป็นการเคลื่อนไหวจรยุทธ์
ม็อบคนรุ่นใหม่ พูดอีกอย่างคือคนชั้นกลางในเมืองรุ่นใหม่ ตั้งแต่ Gen Y ถึง Gen Z ซึ่งโตมาในโลกคนละใบกับคนรุ่นเก่า จนกลายเป็นความแตกต่างระหว่างวัยที่น่าขัน เพราะถ้าไปดูคนฝ่ายตรงข้าม ส่วนใหญ่ก็จะอายุ 45 ขึ้นไป กลายเป็นสองนครายุคใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนรุ่นเก่าจะไปทางนั้นหมด ไม่เหมือนคนรุ่นใหม่ ที่อีกฝ่ายแทบจะหาไอดอลอายุ 20-30 ไม่ได้เลย
ที่พยายามจะบอกม็อบฝ่อ หรือเย้ยหยัน “คณะก้าวหน้า” แพ้เลือกตั้งนายก อบจ. ก็ไปดูตัวเลขแล้วกัน 42 จังหวัด 2.6 ล้านคน ทั้งที่การเลือกตั้งท้องถิ่นคนละบริบทกัน ถ้ามีเลือกตั้งใหญ่วันนี้ ก็ประเมินได้ว่า พรรคก้าวไกลจะได้ 4-5 ล้านเสียง มี ส.ส. 60-70 คน
พรรคที่สร้างปรากฏการณ์สมัยแรก แล้วถูกรุมกระหน่ำ ไม่เคยเหลือฐานเสียงมากเท่านี้ ไม่ว่าพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2518 หรือพรรคพลังธรรม เมื่อปี 2535 (นี่ยังไม่นับคนเลือกเพื่อไทยที่เชียร์ม็อบเช่นกัน หรือเด็กมัธยมที่กำลังจะมีสิทธิเลือกตั้ง)
พลังคนรุ่นใหม่จึงปราบไม่ได้ แค่ยื้อได้เท่าไหน แค่ถ่วงกระแสไปนานเท่าไหร่ เพราะคนรุ่นใหม่ก็ไม่มีอำนาจที่จะไปเอาชนะเช่นกัน
สถานการณ์การเมืองที่อ่านยาก ล่อแหลมอย่างยิ่ง และร้อนแรงฝังลึกอยู่ตลอดเช่นนี้ แม้ดูเหมือนไม่กระทบเศรษฐกิจทันที แบบม็อบชัตดาวน์กรุงเทพฯ ม็อบยึดสนามบิน หรือเสื้อแดงยึดราชประสงค์ (แถมตรงกันข้ามคือเวลามีม็อบราษฎรทีไร CIA ได้ทำมาหากิน)
แต่ก็จะกดดันเศรษฐกิจไทยอยู่ตลอด อย่างน้อยก็ด้านการลงทุน เพราะไม่มีใครมั่นใจว่าจะเกิดทางตันเมื่อไหร่ และจะผ่าทางตันแบบไหน
เศรษฐกิจบนแผ่นดินไหว ถึงแม้จะยังไม่ถึง 6 ริกเตอร์ ตึกรามบ้านช่องยังไม่พังทลาย แต่ไม่มีแนวโน้มสงบ ใครจะไว้วางใจ
ที่ควรบันทึกไว้อีกอย่างคือ พลังคนรุ่นใหม่ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ยังเรียกร้องความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ แม้ไม่ถึงกับ RT ค้อนเคียว แต่อย่างน้อยจะเห็นได้ว่า ธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่ได้สัมปทาน ได้ประโยชน์จาก คสช.และรัฐบาลสืบทอดอำนาจ มีความผูกพันอย่างเห็นได้ชัด ล้วนถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย
ยกตัวอย่างไบโอไทยเปรียบเทียบราคากล้วยหอม รายได้เกษตรกร ก็กดไลค์กดแชร์กันกระหึ่ม ส.ส.ก้าวไกลก็เพิ่งถล่มนายทุนใหญ่ จะย้ายสถานีรถไฟความเร็วสูง
การเมืองใหม่ของคนรุ่นใหม่จะไม่เหมือนอดีต ที่เปลี่ยนรัฐบาลพรรคไหน กลุ่มทุนก็เข้าถึงได้หมด เผลอ ๆ การต่อต้านจะมาก่อนอำนาจเปลี่ยนด้วยซ้ำ