DELTA กำไรดี..เงินสดไม่ขยับ

หุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ หลังราคาปรับขึ้นร้อนแรง โดยเฉพาะเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ราคาขึ้นไปสูงสุด 838.00 บาท ก่อนจะโรยตัวมาปิดที่ 560.00 บาท ลดลง 18.13%


สำนักข่าวรัชดา

หุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ หลังราคาปรับขึ้นร้อนแรง โดยเฉพาะเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ..ที่ผ่านมา ราคาขึ้นไปสูงสุด 838.00 บาท ก่อนจะโรยตัวมาปิดที่ 560.00 บาท ลดลง 18.13%

น่าแปลกทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องไม่น่าจะปกติ แต่การปรับขึ้นของ DELTA ครั้งนี้ กลับถูกประทับตราโดย “ภากร ปีตธวัชชัย” หัวเรือใหญ่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซะงั้น

แหม๊ที่จริงด้วยหัวโขนของอาเฮียภากรน่าจะออกมาเตือนนักลงทุนมากกว่าไม่ใช่เห็นดีเห็นงามอย่างนี้นะเจ้าคะ

ก็น่าตั้งข้อสังเกต ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมันย้อนแย้งกับข้อเท็จจริงหรือไม่..?

โอเค..ก่อนหน้านี้เป็นการเล่นเกร็งกำไรเรื่องผลประกอบการที่เติบโตแต่ราคาปรับขึ้นมาแบบนี้ มันขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐานไปหรือเปล่า..?

ถ้าไปไล่ดูงบงวดไตรมาส 3/2563 ทั้งรายได้และกำไรเติบโตจริง โดยมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 17,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,643 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 30.8% จากไตรมาสก่อน

ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้จากการขาย 44,184 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,520 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2562 ที่มี 2,959 ล้านบาทมองผิวเผินก็ดูดีอะนะ

แต่ไฮไลต์อยู่ที่กระแสเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดไม่งอกเลยนี่สิโดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 DELTA มีกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 12,363 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2562 ที่มีกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 12,394 ล้านบาท

เท่ากับว่า ที่เห็นกำไรโป่งพอง แต่กระแสเงินสดกลับไม่กระดิกเงินสดไม่เข้าบริษัทน่ะสิ

แล้วเงินสดไปจมกับอะไร..? 1) มีออเดอร์ แต่เก็บเงินไม่ได้ 2) ส่งมอบไม่ทัน หรือ 3) ออเดอร์ปลอม..? อันนี้น่าคิด

ตัวเลขอีกตัวที่น่าสนใจคือ ลูกหนี้การค้าสุทธิและลูกหนี้อื่นเพิ่มขึ้นเกือบ 50% อยู่ที่ 14,195 ล้านบาทนั่นแปลว่า มีออเดอร์ แต่ยังไม่ขายหรือเปล่า..? เป็นลูกหนี้ทางการค้าอะไร ทำไมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นนี้

ขณะที่สินค้าคงเหลือ ก็เพิ่มขึ้น 25.6% อยู่ที่ 11,256 ล้านบาทน่าแปลก ยอดขายโต แต่ทำไมยอดสินค้าคงเหลือกลับเพิ่มขึ้น..? แสดงว่ายอดขายมีปัญหาหรือเปล่า..?

ดู ๆ ไปก็ย้อนแย้งกันนะเนี่ย

ในเมื่อยอดขายและกำไรดีจริงอย่างที่ร่ำลือกันถ้าเป็นสินค้าทั่วไป ต้องมีการสร้างโรงงานใหม่ ขยายกำลังการผลิต แอสเซทต้องเพิ่มขึ้นแต่สินทรัพย์ถาวรอย่างที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ของ DELTA เพิ่มไม่ถึง 10%..!! ที่จริงการลงทุนเครื่องจักร ต้องเพิ่มตามออเดอร์นะตรงนี้ก็แปลก

ด้านหนี้สินรวมพุ่งพรวดเกือบ 50% อยู่ที่ 18,887 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้การค้าจากการซื้อวัตถุดิบที่สูงถึง 15,371 ล้านบาทซึ่งถ้าเป็นตามที่ DELTA ชี้แจงจริง เพื่อผลิตโปรดักส์ใหม่ เบื้องต้นเป็นนิมิตรหมายที่ดี แต่ออเดอร์ที่ได้เข้ามาจะเป็นออเดอร์คงค้างหรือเปล่า..? เพราะในรอบ 9 เดือนปีนี้ มีออเดอร์เยอะก็จริง แต่เป็นออเดอร์คงค้างถึง 90% เลยนะ ประเด็นนี้ก็น่าคิด…!?

หันไปดูดิวิเดนด์ยีลด์ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แค่ 0.32% เท่านั้นจึงเป็นหุ้นที่ไม่เหมาะกับการถือยาว

ทั้งหมดนี้เป็นตัวเลขสำคัญทางการเงินที่นักลงทุนต้องชายตาแลไว้บ้างก็ดีนะจะได้ไม่ต้องเป็นเทวดาตกสวรรค์

ส่วนเรื่องของราคาหุ้นจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร..? มิอาจทราบได้ แต่มันมีเส้นแบ่งที่บางเฉียบระหว่างทุ่งลาเวนเดอร์กับทุ่งสังหารนะจะบอกให้

อิ อิ อิ

Back to top button