“กทม.” เงิบ “ตู่” รับข้อเสนอ “สมาคมภัตตาคาร” ขยายเวลานั่งกินในร้านได้ถึง 3 ทุ่ม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอสมาคมภัตตาคาร สั่งยกเลิกคำสั่ง กทม. เปลี่ยนเป็นสามารถนั่งทานอาหารในร้านได้ถึง 3 ทุ่ม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในวันนี้ (4 ม.ค.64) ว่า ที่ประชุม ศบค.ได้รับข้อเสนอจากสมาคมภัตตาคาร จึงขอให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ยกเลิกประกาศที่กำหนดห้ามการนั่งรับประทานอาหารในร้านตั้งแต่ 19.00-06.00 น.ออกไปก่อน โดยจะให้สามารถนั่งทานอาหารได้ถึง 21.00 น. แต่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่เคยทำไว้เดิม คือ การจำกัดจำนวนคน และรักษาระยะห่าง ซึ่งทางนายกสมาคมฯ มั่นใจว่าทำได้ ก็ขอให้ดำเนินการตามนั้น หากทำไม่ได้ก็จะสั่งปิดทันที สิ่งใดที่ให้ช่วยกันได้ก็ช่วยกัน เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบมากในเรื่องธุรกิจ
สำหรับการประชุม ศบค.ในวันนี้ได้เน้นย้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้ดูแลสถานการณ์แต่ละพื้นที่มากยิ่งขึ้น และขออภัยในความไม่สะดวกในเรื่องของการเดินทางข้ามจังหวัดที่จะต้องมีด่านตรวจที่เข้มงวด โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดต้นทางไปยังจังหวัดโดยรอบ โดยยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการล็อกดาวน์ แต่เป็นมาตรการที่แต่ละพื้นที่ต้องกำหนดเพิ่มเติม จากมาตรฐานกลางที่รัฐบาลได้กำหนดไปแล้ว ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะนำผลประชุม ศบค.รายงานเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการควบคุมผู้ติดเชื้อ ให้อยู่ในสถานที่ที่สามารถควบคุมได้ และนำเข้าสู่การตรวจสอบคัดกรองให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าจะทำให้พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ ถ้าสามารถควบคุมได้จะทำให้เห็นว่ามาตรการของรัฐบาลทำได้ดีพอสมควร
ส่วนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจและต่างประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนกันบ้างแล้ว แต่ในส่วนของไทยจะต้องพิจารณาวัคซีนที่มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทยถือว่ามีมาตรฐานที่เหมาะสมรับได้ จึงมอบหมายให้กรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีคเข้าไปดูแลร่วมกับ อย.แล้ว คาดว่าในระยะเวลา 3 เดือน ไทยจะได้รับวัคซีน 2 ล้านโดส และจะต้องเตรียมแผนว่าจะฉีดให้กับใครบ้าง โดยจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน และที่เหลืออีก 26 ล้านโดสจะนำเข้ามาในระยะต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้จัดหาเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส คาดว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้เกือบทั้งประเทศ ซึ่งบริษัทที่พัฒนาวัคซีนก็พร้อมอยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญวันนี้ทุกคนจะต้องช่วยกันเพราะหากเอาแต่ความคิดส่วนตัวหรือตำหนิแต่เพียงอย่างเดียวก็ไม่ สามารถเดินไปได้และความร่วมมือไม่เกิดขึ้น และสิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือเรื่องของหน้ากากอนามัยที่ทุกคนจะต้องใช้ แต่หากไม่มีก็สามารถใช้หน้ากากผ้าได้ เพื่อช่วยป้องกันตนเองและการแพร่ระบาดไปยังคนอื่นได้ในระดับหนึ่ง ที่ถือว่าปลอดภัยในขั้นต้น และเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย
กรณีข้อเสนอของนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะ ส.ส.ระยอง ขอให้ล็อกดาวน์ 4 จังหวัดภาคตะวันออกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่การล็อกดาวน์ แต่ให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดไปเพิ่มมาตรการและความเข้มงวดในจังหวัดของตนเอง
ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร เห็นชอบตามมติของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ที่มีมติขยายเวลาจำหน่ายอาหาร เพื่อลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ จากเดิมที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติให้จำหน่ายและนั่งทานอาหารที่ร้านได้ระหว่างเวลา 06.00 – 19.00 น. โดยจะขยายเวลาเป็น 06.00 – 21.00 น. ส่วนเวลา 21.00 – 06.00 น. ให้เป็นการจำหน่ายอาหารแบบสั่งกลับบ้าน (Take Away) เริ่ม 5 ม.ค.เป็นต้นไป