หาแ-กกับความมั่นคง
กระแสสังคมโกรธแค้น เจ้าหน้าที่ทุจริตรับส่วยบ่อนพนันขบวนการลักลอบค้าแรงงาน ทำให้โควิดระบาดรอบใหม่ “แหม่มโพธิ์ดำ” เปิดโปงเส้นสายด่านแม่สอด ทำเอา ผบ.ตร.เต้น บินไปสั่งปราบเด็ดขาด
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
กระแสสังคมโกรธแค้น เจ้าหน้าที่ทุจริตรับส่วยบ่อนพนันขบวนการลักลอบค้าแรงงาน ทำให้โควิดระบาดรอบใหม่ “แหม่มโพธิ์ดำ” เปิดโปงเส้นสายด่านแม่สอด ทำเอา ผบ.ตร.เต้น บินไปสั่งปราบเด็ดขาด
ใครเชื่อบ้างว่าปราบได้ อย่างเก่ง 2-3 เดือนก็เหมือนเดิม ไม่ได้ปรามาส แต่ไม่ว่าใครเป็น ผบ.ตร.ก็ปราบไม่ลงเพราะเป็นปัญหาเชิงระบบ
ซูเปอร์โพลผิดหวัง ประยุทธ์เปลี่ยนไป ไม่เด็ดขาดปราบทุจริต สะท้อนความคิดอนุรักษนิยมงมโข่ง ซึ่งเชื่อคาถา “หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก” ขอให้บ้านเมืองปกครองด้วยคนดี รวบอำนาจไว้ที่คนหยิบมือ เพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่เอาผิดได้กว้างขวาง ลงโทษอย่างรุนแรง แล้วจะปราบโกงได้
รัฐประหารใหม่ ๆ เห็น คสช.ขึงขังปราบบ่อนปราบส่วยจัดระเบียบรถตู้ ก็ตบมือตีตีน หารู้ไม่ว่า 7 ปี คสช.ฟื้นรัฐราชการเป็นใหญ่ รวบอำนาจสู่ศูนย์กลาง ยิ่งขาดการตรวจสอบถ่วงดุล ยิ่งเขียนกฎหมายเพิ่มอำนาจ ไอ้โน่นไอ้นี่ก็ต้องขออนุญาต ยิ่งเพิ่มช่องทางรีดไถ
ยกตัวอย่างการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างชาติ ที่บอกให้เข้มงวด เด็ดขาด ลงโทษหนัก ในทางปฏิบัติจะมีการโชว์ออฟให้เห็นช่วงแรกเท่านั้น แล้วกลับไปเหมือนเดิม โดยต้องจ่ายส่วยเพิ่มอีกต่างหาก
เพราะแรงงานต่างชาติ พม่า ลาว เขมร มีความจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ ที่ไม่สามารถหาแรงงานไทยได้ในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งอันที่จริง ผู้ประกอบการในปัจจุบันก็จ้างแรงงานต่างชาติสูงกว่าขั้นต่ำ เพราะถ้าทำถูกกฎหมาย ต้องจ่ายบริษัทนายหน้าจัดหางานประสานให้ตั้งแต่ประเทศเพื่อนบ้านมาถึงไทย หัวละหมื่นกว่าถึงสองหมื่น อยู่ได้ 6 ปี ต่ออายุทุก 2 ปี
นั่นคืออัตราสำหรับบริษัทใหญ่ นำเข้าทีละหลายร้อยคน ผู้ประกอบการรายย่อยเสียสูงกว่า ยุ่งยากกว่า โดยไม่นับว่าต่อให้ทำถูกกฎหมายก็ยังต้องเสียค่าเก๋าเจี๊ยะ ไม่ให้เจ้าหน้าที่รังควาน เช่นร้านอาหารขนาดใหญ่ ใช้ลูกจ้างเป็นสิบ จ่ายรายเดือน 2-3 พัน
แรงงานต่างชาติยังมีข้อห้ามจุกจิก เช่นห้ามข้ามเขต บริษัทก่อสร้างจะขนคนงานไปอีกไซต์งาน ต้องขออนุญาต แถมค่าเก๋าเจี๊ยะไม่มีใบเสร็จ หัวละ 100-200 แล้วใช้ทำได้เฉพาะงานกรรมกร เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน ร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่กันมานานใช้พม่าลวกก๋วยเตี๋ยวมีความผิด บริษัทก่อสร้างจ้างมา 4-5 ปีจนเป็นช่างเชื่อมช่างสีได้ ก็ต้องลักใช้ เพราะไม่รู้จะไปหาคนไทยที่ไหน
ช่วงโควิดรอบแรก นายจ้างเจอปัญหาเศรษฐกิจ เลิกจ้างลอยแพ แรงงานเคว้งคว้างกลับไม่ได้ นายจ้างเดิมต้องเซ็นใบเลิกจ้างให้จึงหางานใหม่ได้ ก็กลายเป็นแรงงานเถื่อนหลายแสน ไม่ใช่รัฐไม่รู้ แต่ไม่สนใจ ต้นเดือนธันวายังมีข่าวตำรวจรีดไถผู้ประกอบการ หัวละ 5 หมื่น แล้วเงียบไป
ที่เป็นเช่นนี้เพราะ พ.ร.บ.แรงงานต่างด้าว ไม่ได้คำนึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจหรือสวัสดิการสำหรับแรงงานเป็นหลัก แต่มุ่งคำนึงถึงความมั่นคงของความเป็นไทย อยากใช้ประโยชน์แรงงานต่างชาติแต่กลับกีดกัน
เคยเชิญข้าราชการระดับสูงมาสัมภาษณ์เรื่องแรงงานต่างด้าว สิ่งที่เขาพูดหลังไมค์ทำให้ขนลุก คือแสดงความวิตกกังวลว่าพม่าเขมรลาวจะมาออกลูกออกหลาน ใช้บริการโรงเรียนโรงพยาบาลของเรา นาน ๆ เข้ามันจะกลืนคนไทย? ทั้งที่คนไทยจำนวนมากก็มีปู่ย่าตายายถือใบต่างด้าวจากซัวเถา แล้วก็เคยถูกข้าราชการรีดไถตั้งแต่ดึกดำบรรพ์
การเข้มงวดเรื่องความมั่นคงต่างหาก ที่เป็นช่องให้ทำมาหาแ-ก แทนที่จะเปิดกว้างอำนวยความสะดวก เช่นเดียวกับบ่อนซ่อง ซึ่งหาแ-กกับศีลธรรมดัดจริต คนไทยข้ามไปเล่นพนันตามบ่อนชายแดนมากมาย เป็นเจ้าของเองก็เยอะ แต่ประเทศไทยไม่ยอมให้มีบ่อนถูกกฎหมาย ทั้งที่นายบ่อนเป็นนักการเมือง พ่อค้าแป้งเป็นรัฐมนตรี
บ่อนหรือโบสถ์ ถ้าแออัดสวดมนต์ก็แพร่โควิดเหมือนกัน เพียงแต่บ่อนจ่ายส่วยแล้วยังเปิดได้