NER วิ่งฉิว 3% โบรกเชียร์ “ซื้อ” ชูกำไรปี 63 โตกระหึ่ม 2 เท่าตัว
NER วิ่งฉิว 3% โบรกเชียร์ “ซื้อ” ชูกำไรปี 63 โตกระหึ่ม 2 เท่าตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ณ เวลา 11.42 น. อยู่ที่ระดับ 4.66 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 3.10% สูงสุดที่ระดับ 4.74 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 461.94 ล้านบาท
ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5 บาท/หุ้น โดยแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/63 ยังคงสดใส +143.9% จากไตรมาสก่อน และ +199.4% จากปีก่อน ทำให้เชื่อว่าแนวโน้มปี 2563-64 ยังคงเป็นไปตามเป้า ส่วนปี 2564 ยังเห็นการเติบโตของกำไรปกติอีก +41.5% จากปีก่อนอีกด้วย
ส่วนประเด็น ผบห.สูงสุดรายงานขายหุ้น 6.19% นั้น ผบห.เผยว่าเป็นการจัดสรรภายในครอบครัว การดำเนินงานยังคงเป็นไปตามปกติ ส่วนประเด็นสหรัฐเตรียมขึ้นภาษียางรถยนต์สัญชาติจีนนั้น ผบห.เผยมีเพียงลูกค้าบางรายสัดส่วนไม่เกิน 11% ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ตลาดยางรถยนต์ในสหรัฐก็มีการปรับราคาขึ้นไปแล้วจากอุปสงค์ที่สูงมาก ทำให้ผู้ประกอบการจีนยังคงส่งยางไปแข่งขันได้ ทำให้ยอด order ยางมายัง NER ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 5.00 บาท/ หุ้น อิง P/E 7.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต และ ได้รวมผล dilution effect ? ของ NER-W1 ไปแล้ว)
ทั้งนี้ คาดว่า NER จะรายงานกำไรสุทธิ 371 ล้านบาท ขยายตัวถึง +143.9% จากไตรมาสก่อน และ 199.4% จากปีก่อน ผลักดันจาก (1) ปริมาณขายตามคำสั่งซื้อก่อนหน้ากว่า 1.2 แสนตัน +12.9% จากไตรมาสก่อน และ +48.4% จากปีก่อน (2) อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะดีดขึ้นเป็น 12.7% จาก 9.3% ไตรมาสก่อน และ 7.7% ก่อน เนื่องจากยอดขายในไตรมาสนี้ เกิดจากคำสั่งซื้อในช่วงไตรมาสก่อนซึ่งเป็นจังหวะที่ราคายางพาราเร่งตัวขึ้น ทำให้ NER ได้เปรียบในการกำหนดมาร์จิ้นที่ดีกว่าไตรมาส 2 และ 3
นอกจากนี้ NER ยังได้ประโยชน์จากขนาด (economies of scale) จากอัตราการใช้กำลังการผลิตเต็ม 100% อีกด้วย เทียบกับไตรมาสก่อนที่ราว 91% ผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิคาดแตะ 7.6% ดีที่สุดของปี 2563 แม้ว่าเงินสินไหมทดแทนไฟไหม้คลังสินค้าก่อนหน้าราว 20 ลบ. จะล่าช้าไปบันทึกในไตรมาส 1/64 ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปตามคาด กำไรปกติในปี 2563 จะปิดที่ 974 ล้านบาท +115.4% จากปีก่อน และจะใกล้เคียงกับที่คาดไว้ ส่วนปี 2564 คาดกำไรจะเติบโตอีก +41.5% จากปีก่อน จากการผลิตเต็มกำลังตลอด 4 ไตรมาสเป็นครั้งแรก สอดรับเป้าขาย 4.5 แสนตัน +26.1% จากปีก่อน และมาร์จิ้นปี 2564 ที่คาดจะสูงกว่าปี 2563 ซึ่งประสบปัญหา COVID-19 ไป 2 ไตรมาส