SHR คาดรายได้ปี 64 พลิกฟื้น อัดงบลงทุน 2 พันลบ.ขยายกิจการทั้งใน-ตปท.
SHR คาดรายได้ปี 64 พลิกฟื้น อัดงบลงทุน 2 พันลบ.ขยายกิจการทั้งใน-ตปท.
นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เปิดเผยว่า บริษัทมองแนวโน้มรายได้ในปี 64 จะพลิกกลับมาเติบโตขึ้นจากปีก่อน แม้ภาคการท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง แต่จากการที่มีการใช้วัคซีนโควิด-19 ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ภาครัฐจะเริ่มนำเข้ามาในเดือน ก.พ.นี้ จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวมีโอกาสเริ่มเปิดกลับมาได้บ้างในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมที่สร้างรายได้ของบริษัทเริ่มฟื้นตัวไปด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญในขณะนี้บริษัทก็จะเน้นการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ธุรกิจยังเดินหน้าไปต่อได้ในช่วงที่ภาพรวมของภาคการท่องเที่ยวทั้งโลกยังชะลอตัว โดยที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมของบริษัทนั้น ส่วนใหญ่ 60% มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะโรงแรมในเครือ Outrigger ที่อยู่ในหมู่เกาะฟิจิ มอริเชียส และมัลดีฟ์ รวมถึง 2 โรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์ที่ ได้แก่ SAii Lagoon Maldives-Curio Collection by Hilton และ Hard Rock Hotel Maldives และโรงแรมในประเทศไทยมีสัดส่วนรายได้ราว 40% ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ในสมุย ภูเก็ต เกาะพีพี และเกาะสมุย 2 แห่ง
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงเดินหน้าแผนเปิดโรงแรมแบรนด์ใหม่ในเกาะสมุยเพิ่ม 1 แห่งในช่วงเดือนเม.ย. 64 ซึ่งสอดคล้องกับแผนงานของบริษัทที่จะเน้นการพัฒนาแบรนด์โรงแรมและรีสอร์ตของตัวเองมากขึ้น เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้มีความหลากหลาย และต่อยอดไปสู่การให้บริการบริหารโรงแรมให้กับเจ้าของโรงแรมรายอื่นๆ
โดยในปี 64 บริษัทวางแผนจะเปิดแบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทอีก 6 แห่ง นอกเหนือจาก 1 แห่งในเกาะสมุยแล้ว ที่เหลืออีก 5 แห่ง จะเน้นไปในจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นหัวเมืองใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่
ทั้งนี้แม้ว่าสถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมในปัจจุบันจะชะลอตัวจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายลงอย่างชัดเจน ทำให้การท่องเที่ยวทั้งโลกหยุดชะงักกระทบมาถึงธุรกิจโรงแรมที่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ โดยเฉพาะโรงแรมที่มีศักยภาพ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาและตั้งงบลงทุนไว้ราว 2 พันล้านบาทเพื่อรองรับการทำดีล
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมองหาโอกาสในการนำแบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทของบริษัทเข้าไปรับจ้างบริหาร ทำให้มีรายได้ใหม่ๆเข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และทำให้แบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาเองเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย