KBANK นำทีม “หุ้นแบงก์” วิ่งคึก! โบรกมองรับผลดี “เกณฑ์ฟรีโฟลต” ใหม่ – กำไรปี 63 ดีกว่าคาด

KBANK นำทีม “หุ้นแบงก์” วิ่งคึก! โบรกมองรับผลดี “เกณฑ์ฟรีโฟลต” ใหม่ – กำไรปี 63 ดีกว่าคาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 10.56 น. ราคาหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK อยู่ที่ระดับ 121.50 บาท บวก 5.50 บาท หรือ 4.74% สูงสุดที่ระดับ 122 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 120.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.35 พันล้านบาท

ด้านธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL อยู่ที่ระดับ 124.50 บาท บวก 3 บาท หรือ 2.47% สูงสุดที่ระดับ 124.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 123 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 526.23 ล้านบาท

ขณะที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB อยู่ที่ระดับ 92.75 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 2.49% สูงสุดที่ระดับ 93.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 92 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 370.12 ล้านบาท

ส่วน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB อยู่ที่ระดับ 1.18 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.61% สูงสุดที่ระดับ 1.19 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.17 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 305.31 ล้านบาท

เช่นเดียวกัน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB อยู่ที่ระดับ 12.30 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.50% สูงสุดที่ระดับ 12.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 12.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 189.37 ล้านบาท

ด้าน บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า แนวคิดที่จะแก้ปัญหาการเก็งกำไรในหุ้นที่มี Free Float ต่ำโดยกำหนดวิธีคำนวณดัชนีใหม่ที่เรียกว่า Free float Adjusted Market Cap ซึ่งเป็นการนำตัวเลข Free Float ของแต่ละบริษัทมาถ่วงน้ำหนักใน Market Cap ก่อนคำนวณเป็นดัชนี ฝ่ายวิจัยศึกษาข้อมูล Free float ของตลาดหุ้นไทยพบว่าทั้งตลาดมีค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ 44%

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับดังกล่าวก็มีโอกาสที่จะได้รับการถ่วงน้ำหนักมากขึ้น อย่างเช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์, รับเหมาฯ, วัสดุฯ, เกษตรฯ และ  ICT

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) คือ หุ้นที่มีน้ำหนักต่อดัชนีเพิ่มขึ้นมากสุดโดยส่งผลต่อ SET Index เพิ่มขึ่น 1.7% (มีน้ำหนักต่อดัชนีเพิ่มขึ้นจาก 1.4% เป็น 3.1%) หรือ ทุก ๆ 1% ที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นของ BBL จะส่งผลต่อ SET เพิ่มขึ้นเป็น 0.47 จุด จากเดิม 0.21 จุด ในอีกมุมหนึ่ง คือ กองทุน Passive Fund มีโอกาสเพิ่มเม็ดเงินลงทุนใน BBL ขึ้นถึง 125% จากเม็ดเงินเดิมที่ลงทุนอยู่แล้ว

ขณะที่ ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีกำไรสุทธิปี 63 ลดลง 24% จากปี 63 แต่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดราว 40% คาดว่าจะเป็นข่าวบวกกับหุ้นในระยะสั้นได้ ขณะที่ยังต้องรอติดตามงบแบงก์ขนาดใหญ่ที่จะทยอยออกมาเช่น SCB, KTB ส่วนใหญ่ลดลงเพราะตั้งสำรองฯเพิ่ม แต่กำไรดำเนินงานกลับดีขึ้น

Back to top button