สังคมข่าวหุ้น

ย่าหย๋า

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 ก.พ. 64) ปิดที่ระดับ 1,486.25 จุด เพิ่มขึ้น 8.20 จุด หรือ 0.55% มีมูลค่าการซื้อขาย 77,033.49 ล้านบาท

*ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 ก.พ. 64) ดีดตัวตามตลาดทั่วโลกแบบไม่ตกขบวน พุ่งกว่า 10 จุด ก่อนไหลลงเล็กน้อยจนปิดตลาดระดับ 1,486.25 จุด เป็นการตอบรับราคาน้ำมันพุ่งแรง ทำให้มีแรงซื้อเข้ามามากในกลุ่มพลังงานขึ้นนำตลาดเจ้าค่ะ

*วานนี้ FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนต้นปี 64 ยังพุ่งขึ้นในเกณฑ์ร้อนแรงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง โดยนักลงทุนคาดหวังการไหลเข้าของเงินทุนเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมา คือ การคลี่คลายสถานการณ์โควิด-19 แถมมีข่าวดีเรื่องวัคซีนที่ทยอยออกมา และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

*แม้ตลาดเช้าจะเปิดมาบวก แต่หุ้น 7UP บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กลับลบ 5.36% หลังมีข่าวว่าจะชะลอลงทุนธุรกิจน้ำประปาในภูเก็ตกับ BKD บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) พร้อมระบุสาเหตุชัดเจนว่า สถานการณ์การโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้น้ำในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งมีผลต่อรายได้ของ BKD ทำให้ความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจของโครงการไม่เป็นไปตามที่ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ประมาณการรายได้ไว้ จึงชะลอการเข้าลงทุนเพื่อพิจารณาพัฒนาการความคืบหน้าของโครงการประกอบการเข้าลงทุนต่อไป

*ทาง TFG บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กางแผนธุรกิจปี 64 ประกาศเดินหน้าปั้มรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% รับอานิสงส์ยุโรปเพิ่มโควตานำเข้าสินค้าสัตว์ปีก รวมทั้งการขยายฟาร์มระดับพันธุ์ทั้งในประเทศและประเทศเวียดนาม โดยเริ่มดำเนินไปแล้วบางส่วน  ส่วนของธุรกิจไก่จะขยายตัวขึ้นจากธุรกิจไก่ปรุงสุกที่จะมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น

*ส่วน STARK บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชูเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปีนี้เติบโต 15-20% จากปีก่อน ทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากรายได้หลัก คือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิล มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีไปพร้อมกับอุตสาหกรรม จากแผนการลงทุน 5 ปี (2563-2567) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมราว 2 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนพัฒนาระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า และแผนสนับสนุนการลงทุนโรงไฟฟ้าจากต่างชาติของรัฐบาลเวียดนาม เพื่อจะได้มีพลังงานไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการใช้ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

*PTG บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ขณะนี้บริษัทสนใจเข้าร่วมโครงการที่กองทัพบกและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ บนพื้นที่ที่มีศักยภาพของกองทัพบกในภูมิภาคต่าง ๆ ราว 3 แสนไร่ ประมาณ 30,000 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ลงทุนเฟสแรก 300 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอความชัดเจนผลของการศึกษาความเป็นไปได้ดังกล่าว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 3 เดือน

*PDI บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เตรียมเดินหน้าลุยธุรกิจโรงแรม หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวซื้อ “โฟร์ซีซั่น-คาเพลลา” โดยระบุว่า “การเข้าซื้อกิจการโรงแรมระดับโลกทั้งสองแห่งจะเป็นก้าวเริ่มต้นที่สำคัญของ PDI ในธุรกิจโรงแรมและการบริการ การลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับบริษัท โดยเฉพาะเมื่ออุตสาหกรรมโรงแรมเริ่มเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด -19

*MBK บริษัท เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) ล่าสุด เปิดโรงแรมใหม่ ภายใต้ชื่อว่า “โรงแรม “ทินิดี ไฮด์อเวย์ ต้นไทร บีช กระบี่” เพื่อเป็นการตอบรับที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตการล็อกดาวน์ และการมีส่วนร่วมช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ระบุโรงแรมดังกล่าวเป็นโรงแรมในเครือแห่งที่ 3 ในจังหวัดกระบี่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ภายใต้มาตรการความสะอาดและปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยจะจับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

*ด้านกลุ่มอสังหาฯ อย่าง SIRI บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยเดือนแรกปี 64 กวาดยอดขายทะลุ 3,500 ล้านบาท คิดเป็น 70% จากเป้ายอดขายไตรมาส 1/64 ที่วางไว้ 5,000 ล้านบาท นับว่าเป็นยอดขายต่อเดือนในอัตราที่สูงและอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับเป้าหมายยอดขายที่วางไว้ในปีนี้ที่ 26,000 ล้านบาท สร้างผลงานได้ดีภายใต้สภาวะตลาดที่ยังคงมีความผันผวนสูงในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด โดยบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนการขายดีที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 45% ของยอดขายรวม

*สำหรับหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม AMATA บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกมายอมรับว่า นิคมฯ ย่างกุ้งเฟสแรกอาจเลื่อนเปิดไปจากเดิม เนื่องจากเหตุการณ์ที่ในเมียนมาได้ส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาและลงทุนนิคมอุตสาหกรรม Yangon Amata Smart & Eco City (YASEC) ในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งบริษัทได้สิทธิจากรัฐบาลเมียนมาในการลงทุนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมรวม 5,000 ไร่ ทำให้การเปิดให้บริการนิคมอุตสาหกรรมในเฟสแรกอาจจะต้องเลื่อนการเปิดให้บริการออกไป จากแผนเดิมที่จะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในปี 64