“เอเซีย พลัส” อัพเป้า JMART สูงสุด 28 บ. รับบ.ลูก JMT-SINGER หนุนกำไรออลไทม์ไฮ!

“เอเซียพลัส” อัพเป้า JMART สูงสุด 28 บ. รับบ.ลูก JMT-SINGER หนุนกำไรออลไทม์ไฮ!


บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ก.พ.2564) โดยมองว่ากำไรของ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART จะขึ้นทำ ALL Time High อย่างไม่หยุดยั้ง เริ่มจากไตรมาส 4/2563 มีแนวโน้มดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากแรงขับเคลื่อน 3 ธุรกิจการเงิน J Fintech ที่เร่งขึ้น หลังร่วมทุน KB ,JMT ที่ดีทั้งประสิทธิภาพเก็บหนี้ ปริมาณหนี้ใหม่ และ SINGER ที่หนุนจากสินเชื่อทะเบียนรถ มูลค่าพื้นฐานใหม่เพิ่มมาที่ 28 บาท คงแนะนำซื้อ

สำหรับประเด็นสำคัญประกอบด้วย 1. แผนธุรกิจให้สินเชื่อ (J Fintech ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็น KBJ) หลังร่วมทุนกับกลุ่ม KB Kookmin Card จากเกาหลีใต้ที่เร่งขยายเร็วกว่าคาด โดยจะมีขยายพอร์ตสินเชื่อปี 2564-2565 สู่ 6 พันล้านบาท และ 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ราว 3.5 พันล้านบาท 2. JMART กำหนดเป้าหมายการเติบโตปีนี้ที่ 30% หนุนจากการปรับเพิ่มเป้าเติบโตธุรกิจติดตามหนี้ JMT (ถือหุ้น 52%) และ SINGER (ถือหุ้น 30%) ในปี 2564 ที่ 40%-50% และ 30% สูงกว่าที่คาดไว้ JMT จะมาจากการเร่งซื้อหนี้ จากปริมาณหนี้ในระบบที่เห็นมากขึ้น ส่วน SINGER จะมาจากการเร่งปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ

ขณะที่ประเมินกำไรจะขึ้นทำนิวไฮตั้งแต่ไตรมาส 4/2563 ที่ 274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% จากไตรมาสก่อน แม้ยังไม่เห็นแผนขยายตัวธุรกิจเชิงรุก หลักๆ มาจากธุรกิจมือถือที่เข้าฤดูกาล ,ธุรกิจพื้นที่เช่า J (ถือหุ้น 70%) ที่เปิดพื้นที่ใหม่ และธุรกิจการเงินที่ขยายตัวทั้ง JMT และ SINGER ภาพรวมคาดกำไรปี 2563 ใกล้เคียงคาดที่ 807 ล้านบาท เติบโต 47.8% ขณะที่การขยายตัวในปี 2564 เชิงรุกกว่าคาด จึงปรับเพิ่มกำไรปี 2564-2565 ขึ้นปีละ 8.6% และ 7.2% ไ้ด้กำไรปกติในปี 2563-2564 ขยายตัว 47.8% ,27% และเพิ่มขึ้นอีก 20.8% ในปี 2565

ทั้งนี้มูลค่าพื้นฐานใหม่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 28 บาท จาก 20.5 บาท หลักๆมาจากมูลค่าพื้นฐาน JMT และ SINGER ยังให้คำแนะนำซื้อจาก Upside ที่เหลือราว 13%

ด้าน ราคาหุ้น JMART ล่าสุด ณ เวลา 11.14 น. อยู่ที่ระดับ 25 บาท ปรับตัวขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.21% สูงสุดที่ระดับ 25.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 24.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  446.39 ล้านบาท โดยราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 22.30 บาท เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2564

 

Back to top button