สังคมหุ้น
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ 1,500 จุด ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง หลังเข้ามาช้อนซื้อหุ้นไทยกันสนุกสนานในช่วงปลายปี 2563
คาเฟอีน
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ 1,500 จุด ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง หลังเข้ามาช้อนซื้อหุ้นไทยกันสนุกสนานในช่วงปลายปี 2563
*มีคำถามว่า ฟันด์โฟลว์ ทำไมถึงขายล่ะ? คำตอบคือ ส่วนหนึ่งเขาก็ขายทำกำไร และอีกเหตุผลหนึ่งมาจากโควิด-19 รอบใหม่ ทำให้เศรษฐกิจไทยอาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด เลยต้องปรับพอร์ตกันออก ๆ ไปก่อน แต่เห็นว่า ไม่ได้ขายแต่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ยังขายในตลาดหุ้นเอเชียด้วย และก็เป็นจังหวะที่หุ้นไทยควรจะต้องปรับฐานด้วยนั่นแหละ ส่วนมุมมองนักวิเคราะห์ เห็นว่า หุ้นน่าจะทรง ๆ ทรุด ไปชั่วคราว ก่อนจะดีดกลับได้ในช่วงปลายไตรมาสแรก
*แบงก์กรุงเทพ BBL ของกลุ่มโสภณพนิช ราคาหุ้นวิ่งร้อนแรงช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย ทำให้บวก 5.50 บาท ปิด 120.50 บาท เปลี่ยนแปลง 4.78% วอลุ่มซื้อขายโด่งอันดับ 1 ที่ 5,464 ล้านบาท มาจากข้อมูลที่ BBL เผยถึงเป้าหมายปี 2564 ว่า Loan growth 3-4%, NPL ratio (Gross) ประมาณ 4.5%, Net interest margin : NIM ประมาณ 2.1%, Net fee income growth 3-4%, Cost to income ratio ต่ำกว่า 50% และ Expected credit loss ประมาณ 22,000 ล้านบาท
*เจมาร์ท JMART ภายใต้การบริหารของเสี่ยอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ราคายังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ 25 บาทไปได้ แม้ว่าวานนี้ จะขึ้นไปยืนระดับ 25.50 บาท แต่ต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมา ราคาเลยต้องมาสร้างฐานกันบริเวณ 24 บาท บวก/ลบ ไปอีกสักระยะ รอแรงส่งจากปัจจัยบวก เช่น ผลประกอบการไตรมาส 1/64 และผลประกอบการที่น่าจะออกมาเซอร์ไพรส์ของ JMT SINGER และบริษัทลูก ในเครือทั้งหมด ส่วนมาร์เก็ตแคปล่าสุด พุ่งขึ้นมาแล้ว 2.2 หมื่นล้านบาท น่าจะมีลุ้นเข้า SET50 ในช่วง 1-2 ปีนับจากนี้ไป
*SA บมจ.ไซมิส แอสเสท “เจ้ามือ” กลับมาแล้ว จะเห็นว่า ช่วง 2 วันวอลุ่มแน่นขึ้น แตะ 100 ล้านบาท แถมราคาดันขึ้นมายืนเหนือแนวต้าน 6.20 บาทได้ อย่างวานนี้ปิด 6.35 บาท ราคามีโอกาสไปต่อ เทคนิคสวย สำหรับ SA เพิ่งเข้าเทรดเมื่อ 25 ธ.ค. ด้วยราคาไอพีโอ 5.50 บาท และเคยขึ้นไปสูงสุด 7.85 บาท ก่อนจะลงมา และเคลื่อนไหวในกรอบ 6.00 บาท บวก/ลบ เล็กน้อยอยู่พักใหญ่ สำหรับ SA ทำธุรกิจหลักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการอาคารชุดคอนโดมิเนียม และอสังหาริมทรัพย์แนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ ในเขตกรุงเทพฯ
*บล.ทิสโก้ ประเมินกำไรของ TU บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 1.416 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาส 4/62 จากปัจจัยกลุ่มอาหารทะเลแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่มจะมีผลการดำเนินงานที่ดีจากการระบาดโควิด-19 ที่ยังมีอยู่ การล็อกดาวน์ในทวีปยุโรปและสหรัฐฯ จึงแนะนำ “ซื้อ” ที่มูลค่าเหมาะสม 21 บาท และถูกจัดเป็นหุ้นกลุ่มปันผลสูง อัตราผลตอบแทน 3.50% วานนี้ราคาปิด 13.70 บาท วนเวียนสร้างฐานอยู่แถว ๆ นี้ มาตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค. 63 กราฟใกล้ผงกหัวขึ้นล่ะ
*กรุงไทย KTB ภายใต้การขับเคลื่อนของ “ผยง ศรีวณิช” ชวนลูกค้ามอบความสุขฉลองตรุษจีนปีฉลู ส่งอั่งเปาดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT พร้อมรับ e-Slip ธีมตรุษจีน ที่พิมพ์ข้อความอวยพรให้คนที่คุณรัก แม้อยู่ห่างไกลหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และลดการสัมผัสเงินสด พร้อมทำซองอั่งเปาและถุงผ้าสีแดงบรรจุส้ม เพื่อให้กับลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านสาขากว่า 1,023 แห่งทั่วประเทศ สแกน QR Code ด้านหลังซองอั่งเปาเพื่อรับชมคลิปอวยพร
*TTCL บมจ.ทีทีซีแอล แนวรับ 5 บาท และเชื่อว่า “เจ้ามือ” (ที่น่าจะรู้ข้อมูลภายใน) คงไม่ให้หลุดไปจากระดับนี้ (5 บาท) แต่ก็ต้องระวังช่วงลากราคาขึ้น อย่าเผลอตามเข้าไป เพราะที่ทราบเจ้ามือ TTCL นี่สุดยอดความเขี้ยว ใครเผลอไปชักเย่อด้วย ตามขบวนไป ระวังขึ้นไปติดดอยเอานะ