คาดเฟดคงดบ.-ปัจจัยในประเทศดีขึ้นแนะเก็บ 3 หุ้นแบงก์ SET บ่ายไปต่อ

SET เช้านี้ปรับตัวขึ้นตามเดียวกับตลาดต่างประเทศตอบรับความคาดหวังเฟดเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน และนโยบายทางการจีนฟื้นตลาดหุ้น แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังไม่นิ่งจากทิศทางที่ยังไม่ชัด บ้านเรามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ตัวเลขยัง support ไม่ทัน ทำให้มองตลาดยังวูบวาบ อีกทั้ง Flow ต่างชาติก็คาดหวังยาก บ่ายนี้ตลาดฯในประเทศ และในยุโรปก็น่าจะยังบวกในช่วง 1-2 วันนี้ ให้แนวรับ 1,380 แนวต้าน 1,390-1,400 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (9 ก.ย.) ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศตอบรับความคาดหวังว่าเฟดจะเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน และนโยบายทางการจีนฟื้นตลาดหุ้น แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังไม่นิ่งจากทิศทางที่ยังไม่ชัด ส่วนบ้านเรามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ตัวเลขยัง support ไม่ทัน ทำให้มองตลาดยังวูบวาบ อีกทั้ง Flow ต่างชาติคาดหวังยาก

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยจะยืนในแดนบวกได้ และตลาดในยุโรปน่ายังบวกได้ในช่วง 1-2 วันนี้ ให้แนวรับ 1,380 แนวต้าน 1,390-1,400 จุด ขณะที่ แนะนำกลุ่มธนาคารได้รับผลดีจากโครงการช่วยเหลือ SMEs อย่าง KBANK-TMB และ KTB

 

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง หรือ BLS เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ จากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ(FED) อาจตัดสินใจเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน และจีนมีนโยบายที่ออกมาสนับสนุนตลาดหุ้นให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกคงยังไม่นิ่งเนื่องจากทิศทางยังไม่ชัดเจน หากมองที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐจะเห็นได้ว่าตัวเลข ISM ภาคการผลิตของสหรัฐและอัตราการว่างงานออกมาดี รวมถึงความเชื่อมั่นดีขึ้นด้วย แต่ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มเทรดใน valuation ที่แพงแล้ว ดังนั้น อาจจะเห็นการปรับตัวขึ้นและลงสลับกันไป ส่วน Equity ในยุโรปถือว่าน่าสนใจ ส่วนตลาดหุ้นจีนยังวูบวาบอยู่

ด้านตลาดหุ้นบ้านเรามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นข่าวดี แต่ตัวเลขยัง support ไม่ทัน และขณะนี้ตลาดเทรดที่ P/E ใกล้ 15 เท่าแล้ว ดังนั้น ตลาดคงยังวูบวาบอยู่ และ Flow ต่างชาติที่คาดหวังได้ยากว่าจะเข้ามา เพราะเม็ดเงินไหลออกจากเอเชียอันเป็นผลจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดหุ้นไทยจะยืนในแดนบวกได้ และตลาดในยุโรปน่ายังบวกได้ในช่วง 1-2 วันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,390-1,400 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.ย.) SET เช้านี้ปรับสูงขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อคืนนี้ ประเมินเป้าหมายที่ 1,400-1,408 จุดระยะสัปดาห์ โดยหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน ฟื้นตัว โดยเฉพาะ PTT-PTTEP-TOP ขณะที่กลุ่มธนาคารที่ได้รับผลดีจากโครงการช่วยเหลือ SMEs แข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม อย่าง KBANK-TMB และ KTB

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยก TMB เป็น Top Picks ในกลุ่มธนาคาร ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 2.70 บาท จาก 1) ผลการเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับลดลง 22.7% จากจุดสูงสุดเมื่อเดือน ก.พ.สะท้อนภาพเศรษฐกิจอ่อนแอ และคาดการณ์กำไรที่หดตัวลง 9% ไปแล้ว ขณะที่คาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 59 กลับมาขยายตัวได้ 17% จากช่วงเดี่ยวกันปีก่อน  2) ด้วยกำไรที่ขยายตัวแกร่งต่อเนื่อง ส่งผลให้ Valuation Gap ต่างกับธนาคารขนาดใหญ่น้อยลง ปัจจุบันซื้อขายที่ PE 10เท่าของปีหน้า และ PBV 1.25เท่า อิง ROE 13%

3) ได้รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการช่วยเหลือ SMEs เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของธนาคาร และ 4) ราคาหุ้นทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือนไปแล้ว มีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นต่อไปที่ 2.54/2.60 หรือระยะกลางที่ 2.80 บาท โดยราคาทะลุแนวต้านไปแล้ว และมีเป้าหมายถัดไป 2.60 / 2.80 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,808.52 ล้านบาท ปิดที่ 5.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,038.97 ล้านบาท ปิดที่ 18.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 907.86 ล้านบาท ปิดที่ 263.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

ITD มูลค่าการซื้อขาย 580.87 ล้านบาท ปิดที่ 8.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

AJD มูลค่าการซื้อขาย 561.16 ล้านบาท ปิดที่ 1.68 บาท ลดลง 0.03 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button