EGCO สิงโตกินหนอน

เมกะเทรนด์ : สุภชัย ปกป้อง

เรียกเสียงฮือฮาทันที เมื่อบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ประกาศเข้าร่วมชิงเค้กประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 150 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าถึงขั้นมีการเจรจาวิสาหกิจชุมชนหลายแห่ง เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนพื้นที่ต่าง ๆ

โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเมินใช้เงินลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ประมาณ 100 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ที่สำคัญมีข้อตกลงร่วมกับวิสาหกิจชุมชนบางแห่ง ถึงขั้นเตรียมลงนามข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) เร็ว ๆ นี้

มองในเชิงสังคม ถือเป็นการลงทุนเพื่อสังคม ด้วยการผูกวัตถุดิบ จากการเพาะปลูกพืชแบบ Contract farming กับเกษตรกรตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถป้อนเชื้อเพลิงได้อย่างต่อเนื่องตลอดอายุสัญญาไฟฟ้า และช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย

หากมองในเชิงการลงทุน ถูกตั้งคำถามตามมาทันทีว่ายักษ์ใหญ่ไฟฟ้าระดับ EGCO ที่มีศักยภาพและสรรพกำลังจะลงทุนขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ทำไม EGCO ถึงต้องโน้มตัวลงมาจับโครงการขนาดเล็ก ที่ดูแทบจะไม่มี Economy of Scale (การประหยัดต่อขนาด) เลย

โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 19 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา มีมติรับทราบแนวทางการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โครงการนำร่อง 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 75 เมกะวัตต์และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์ มีเงื่อนไขขนาดโรงไฟฟ้าชีวมวลไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ต่อโครงการและโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ต่อโครง การ

ส่วนเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การประมูลต่าง ๆ คณะกรรมการกิจการพลังงาน (กกพ.) อยู่ระหว่างการจัดทำร่างฯ เพื่อทำประชาพิจารณ์และกำหนดเป็น TOR ภายในเดือนก.พ.-มี.ค.นี้

เมื่อดูข้อกำหนดขนาดโรงไฟฟ้าดังกล่าว ดูแล้วเทียบไม่ได้เลย กับโรงไฟฟ้าแต่ละโครงการของ EGCO ที่มีอยู่ทั้งในและต่างประเทศ นั่นหมายถึง “สิงโต” อย่าง EGCO ไม่สมควรมา “กินหนอน” อย่างโรงไฟฟ้าชุมชนเช่นนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยศักยภาพ EGCO กำลังตัดโอกาสผู้ประกอบการพลังงานทดแทนขนาดกลางและเล็ก ที่คาดหวังการลงทุนเพื่อต่อยอดและขยายกำลังการผลิตจากเดิมที่มีอยู่อย่างจำกัด เพราะไม่สามารถยกระดับอัพเกรดชิงเค้กก้อนใหญ่เกินตัวในสังเวียนใหญ่บนสังเวียนเดิมของ EGCO ได้เลย

การขับเคลื่อนของนโยบาย EGCO ครั้งนี้…มีคำถามว่า…EGCO ขึ้นชกผิดสังเวียนหรือไม่.!?