โอกาสในวิกฤตสไตล์จีนพลวัต2015
ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน กำลังให้บทเรียนกับชาวโลกอีกครั้งว่า ความสามารถในการฉวยโอกาสจากวิกฤตนั้น ทำได้ดีอย่างยิ่ง ไม่เพียงเพราะเข้าถึงรากเหง้าปรัชญาของทุนนิยมเท่านั้น แต่ยังนำศาสตร์และศิลปะเชิงกลยุทธ์การจัดการมารับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ดียิ่ง
ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน กำลังให้บทเรียนกับชาวโลกอีกครั้งว่า ความสามารถในการฉวยโอกาสจากวิกฤตนั้น ทำได้ดีอย่างยิ่ง ไม่เพียงเพราะเข้าถึงรากเหง้าปรัชญาของทุนนิยมเท่านั้น แต่ยังนำศาสตร์และศิลปะเชิงกลยุทธ์การจัดการมารับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ดียิ่ง
วันอังคารเช้าสัปดาห์นี้ จีนประกาศตัวเลขส่งออกและนำเข้าเลวร้ายสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 แล้ว ซึ่งทำให้เกิดแรงกังวลไปทั่ว หุ้นตกทั่วโลกหลังรับข่าว แต่อีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ก็มีข่าวดีมากลบทำให้สถานการณ์ที่กำลังวิกฤตกลายเป็นตลาดขาขึ้นรอบใหม่ขึ้นมากะทันหัน
ตลาดหุ้นทั่วโลก กลายเป็นภาวะกระทิงในฉับพลัน ดัชนีตลาดหุ้นในยุโรปบวกแรงโดยเฉพาะเยอรมนี ดาวโจนส์ของสหรัฐฯบวกเกือบ 400 จุด และวานนี้ ดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นโตเกียว บวกแรงกว่า 1,340 จุด บวกแรงสุดของการซื้อขายวันเดียวในรอบ 7 ปี
ตลาดน้ำมัน ตลาดทองคำ และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าทั่วโลก ขานรับข่าวดีจากจีนกันอึงคะนึงเช่นกัน กลายเป็นขาขึ้นระลอกใหม่ เพราะเกิดอาการคลายกังวลเนื่องจากผู้ซื้อรายใหญ่ของโลกอย่างจีน ที่เคยลดการสั่งซื้อลงไป จะมีโอกาสกลับมาซื้อระลอกใหม่
ความเชื่อมั่นดังกล่าว เกิดจากข้อมูลข่าวสารเชิงบวกอย่างเดียว ทั้งที่ข้อเท็จจริงรูปธรรมยังไม่ได้มีอยู่จริง สะท้อนว่าคำพังเพยเก่าแก่ “เมื่อจีนจาม คนทั้งโลกก็เข้าไอซียู” สอดรับกันอย่างยิ่ง
ข่าวสารทางบวกที่ออกมาทำให้ตลาดหุ้นและตลาดเก็งกำไรทั่วโลกพลิกผันจากมุมมองแง่ลบเป็นบวกในฉับพลันนั้น ทั้งข่าวลือ และข่าวจริงที่เป็นทางการสมกันอยู่ สะท้อนให้เห็นความช่ำชองกับการรับมือ จนสามารถพลิกแพลงในสงครามข้อมูลข่าวสารในโลกยุคใหม่ชนิดไร้เทียมทานจริงๆ
ข่าวดีแรกสุด ไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือเท็จคือข่าวที่ว่าในยามเลวร้ายนี้ ทางการจีน จะมีมาตรการทางเศรษฐกิจออกมาอย่างเข้มข้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เพื่อชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หวั่นวิตกกัน
หลังจากนั้น ข่าวจริงก็ตามมาเป็นชุด นับตั้งแต่ข่าวแรกคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว โดย ครม.จีน อนุมัติโครงการสร้างทางรถไฟ 2 โครงการมูลค่ารวมเกือบ 7.0 หมื่นล้านหยวน เพิ่มเติมจากโครงการสร้างทางหลวง และสะพานมูลค่า 7.7 หมื่นล้านหยวนก่อนหน้า
ข่าวต่อมา ผู้บริหาร ก.ล.ต.จีน ออกประกาศมาตรการใหม่สำหรับรับมือกับความผันผวนในตลาดหุ้น โดยใช้มาตรการควบคุมตลาดตราสารอนุพันธ์ นับตั้งแต่การเก็บค่าธรรมเนียมมาร์จิ้นเพิ่ม การจำกัดปริมาณสัญญาซื้อขายล่วงหน้าต่อวันเข้มงวดขึ้น การกำหนดเพดานการถือครอง และการสอบสวนผู้ที่เปิดสถานะ short จำนวนมาก
ส่วน ตลาดหุ้นจีนจะเริ่มนำเอากลไกใหม่เช่น ระบบ circuit breaker ที่กำหนดให้เมื่อใดที่ดัชนีหุ้นร่วงหนักถึง 5% จะหยุดการซื้อขายทันที 1 ชั่วโมงเพื่อให้นักลงทุนตั้งสติ แล้วกลับมาเทรดใหม่ หากยังร่วงอีกก็จะหยุดทำการซื้อขายเมื่อร่วงลงทุกๆ 5%
บูรณาการของการดูแลความผันผวนตลาดหุ้นดังกล่าว ยังสำทับตามด้วยมาตรการภาษี โดย ครม.จีนมีมาตรการนี้ออกมา ให้ยกเว้นภาษีเงินปันผลและสำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นหรือหลักทรัพย์ในตลาดเก็งกำไรระยะนานเกินกว่า 1 ปี เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนถือครองหุ้นในระยะยาว แม้ต้องแบกรับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด แทนที่การเก็งกำไรระยะสั้น
ยังไม่หนำใจ เมื่อวานนี้ กระทรวงคลังจีน ก็ประกาศมาตรการทางการคลังชุดใหญ่ว่า นโยบายการคลังจีนจะมีความเข้มข้นขึ้น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจซึ่งเผชิญแรงกดดันขาลง เริ่มตั้งแต่ 1) ลดการจัดเก็บภาษีธุรกิจ SME เพิ่มจำนวนร้านค้าปลอดภาษีตามท่าเรือต่างๆ ตลอดจนยกระดับการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนา SME 2) ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ผ่านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยจัดตั้งกองทุนด้วยงบประมาณกลาง 3) กำกับดูแลเรื่องการบริหารจัดการหนี้สินหน่วยงานรัฐท้องถิ่น และส่งเสริมปฏิรูปภาษีอย่างต่อเนื่อง แทนที่ภาษีธุรกิจ ด้วยภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีการบริโภค ภาษีทรัพยากร และภาษีเงินได้ส่วนบุคคล
ธนาคารกลางจีนก็เร่งออกมาตรการให้ธนาคารพาณิชย์กันเงินสำรองไว้ในสัดส่วน 20% ของมูลค่าการซื้อขายสกุลเงินในตลาดฟอร์เวิร์ด เพื่อเพิ่มต้นทุนของการเก็งกำไรสกุลเงิน และเลี่ยงความผันผวน โดยไม่เข้าข่ายการควบคุมเงินทุน เพราะไม่จำกัดปริมาณธุรกรรม และไม่ต้องขออนุญาตทำธุรกรรม โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมเป็นต้นไป
ตัวเลขจากโกลแมนแซคส์ ระบุโดยที่ทางการจีนก็ยอมรับ ว่า จีน ได้ล้างผลาญทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศไปแล้วมากถึง 2.36 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพยุงตลาดหุ้นในรอบ 2 เดือนเศษ และยังผลาญเพิ่มอีก 9.39 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน เพื่อประคองค่าหยวนเมื่อเดือนที่ผ่านมา
กระแสข่าวไม่ยืนยันระบุว่า จีนได้สั่งให้ธนาคารกลางขายพันธบัตรรัฐบาลอเมริกันระยะยาว 10 ปี ที่เอามาจากทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ เพื่อเอาเงินมาซื้อพันธบัตรรับบาลจีนนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาตลาดส่งออกที่นับวันจะมีอุปสรรคเพิ่มขึ้นจากการกีดกันการค้า
การแก้ปัญหาอย่างตรงจุดอย่างรอบด้านด้วยสงครามข่าวสารและสงครามเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้เริ่มสงบลง กลับมาเป็นขาขึ้นยืนเหนือดัชนีเหนือ 3,200 จุดอีกครั้งพร้อมกับปริมาณการซื้อขายในตลาดตราสารอนุพันธ์ ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 99% จากระดับสูงสุดเมื่อเดือนมิถุนายน จนตลาดดังกล่าวเข้าข่ายสูญเสียฐานะเป็นตลาดตราสารอนุพันธ์ใหญ่สุดในโลก
มาตรการข้างต้น ทำได้ที่จีนเท่านั้น ห้ามเลียนแบบใช้ประเทศอื่น แม้จะไม่สงวนลิขสิทธิ์ เพราะเกรงจะมีปัญหากินยาผิดซองแล้วเพี้ยน