EPG มั่นใจผลประกอบการครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง หลังเข้าช่วงไฮซีซั่น

EPG มั่นใจผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง (ต.ค.58-มี.ค.59) มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง หลังเข้าช่วงไฮซีซั่น คาดกำไรสุทธิงวดปี 58/59 โตเท่าตัว จากรายได้ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดี


นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง (ต.ค.58-มี.ค.59) จะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของสินค้าในกลุ่มธุรกิจ

โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์  ได้แก่ บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชั้นนำของโลก และกลุ่มบริษัทร่วมทุน บริษัท โตไก อิสเทิร์น รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ซีออน แอดวานซ์ โพลีมิกซ์ จำกัด ที่จะกลับมาเติบโตอย่างมีศักยภาพอีกครั้ง จากยอดคำสั่งซื้อจากบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากในประเทศและต่างประเทศทยอยเข้ามาเป็นจำนวนมาก อาทิ หลังคารถกระบะ และ Sidestep นวัตกรรมใหม่สำหรับรถกระบะและ SUV  โดยภาพรวมสถานการณ์การส่งออกรถยนต์เริ่มมีทิศทางดีขึ้น เนื่องจากตลาดรถกระบะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ หลังค่ายรถยนต์ได้เริ่มผลิตและส่งออกโมเดลใหม่สู่ตลาดมากขึ้น

ขณะที่บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิปี 58/59 (เม.ย.58-มี.ค.59) เติบโตกว่าเท่าตัวจาก 629.17 ในปีก่อนจากรายได้ที่คาดว่าจะขยายตัว และอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้น โดยบริษัทมีเป้าหมายจะรักษาอัตรากำไรสุทธิทั้งปีนี้ไม่ต่ำกว่าไตรมาสแรกที่ทำได้ฉลี่ยราว 13% เพิ่มขึ้นจาก 8.76% ในปีก่อนที่ระดับ 8.76% เนื่องจากได้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้เกิดความคุ้มค่า ขณะเดียวกันต้นทุนพลาสติกที่เป็นวัตถุดิบหลักปรับตัวลดลงเฉลี่ย 18-30%

“ปีนี้เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตกว่าปีก่อนกว่าเท่าตัว เพราะเรามีการบริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี เพราะการเพิ่มเครื่องจักรใหม่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนคน และเราก็ยังได้ประโยชน์ economy of scale รวมไปถึงต้นทุนที่เป็นวัตถุดิบหลักอย่างพลาสติกราคาเฉลี่ยลดลงถึง 18-30% ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”นายเฉลียว กล่าว

ขณะที่มั่นใจรายได้รวมในปี 58/59 จะอยู่ที่ราว 8,500-9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6,915.64 ในปีที่แล้ว ตามแผนขยายงาน ซึ่งคาดว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2  (ก.ค.-ก.ย.58) จะเป็นไปในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกับไตรมาสแรก เนื่องจากทุกกลุ่มสินค้าหลักของ EPG มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อน/เย็นแบรนด์แอร์โรเฟล็กซ์(AEROFLEX) มีปริมาณงานในมือ(Backlog) จำนวนมาก และยังมีคำสั่งซื้อจากสหรัฐเข้ามาตามการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้างด้วย ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์แอร์โรคลาส (Aeroklas) ได้เริ่มจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตกแต่งรถยนต์ Sidestep ที่ร่วมพัฒนากับบริษัทรถยนต์ชั้นนำแล้ว ส่วนธุรกิจของ  อีสเทิร์น โพลีแพค ก็เตรียมขยายโรงงานเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจำนวนมากด้วย

โดยในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ แอร์โรคลาส จะเป็นกำลังสำคัญที่จะผลักดันให้ EPG เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากที่ผ่านมา EPG ได้วางรากฐานให้กับแอร์โรคลาส โดยลงทุนในกระบวนการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของค่ายรถยนต์ และขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านการเข้าซื้อกิจการบริษัท TJM Producr PTY Ltd(TJM) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของ EPG หลังจากนี้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการได้รับผลดีจากราคาวัตถุดิบที่ลดลง รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงด้วย

สำหรับธุรกิจของบริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศกว่า 70% ยังคงมีงานโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานระบบปรับอากาศในขบวนรถไฟ (รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถไฟ Hi speed) ของประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขบวนรถไฟทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ , งานระบบปรับอากาศในเหมืองแร่เงิน รัฐมอนทาน่า และ บิสสิเนส เซ็นเตอร์ ในสหรัฐ และงานระบบปรับอากาศในสนามโอลิมปิก สเตเดียม

รวมถึงโรงแรมประเภทเรียวกัง และบิสสิเนส เซ็นเตอร์ ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีการลงทุนในโครงการก่อสร้างเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพในการจัดมหกรรม กีฬาโอลิมปิกในปี 2020 ซึ่งโครงการเหล่านี้เป็นโครงการระยะยาว แต่เริ่มทยอยรับรู้รายได้แล้วในบางโครงการ โดยคาดว่าภายในปีนี้รายได้จากการขายของแอร์โรเฟลกซ์ ไม่น่าจะต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท และยังได้รับโอกาสใหญ่จากผู้ผลิตยานอวกาศในโครงการสำรวจดาวอังคาร ทาบทามให้วิจัยและพัฒนาฉนวนกันความร้อน/เย็น แอร์โรเฟลกซ์ เกรดซุปเปอร์พรีเมี่ยมที่สามารถทนความเย็นได้ถึง -250 องศาเซลเซียส เพื่อใช้เป็นฉนวนหุ้มท่อในยานอวกาศที่ส่งไปสำรวจดาวอังคารอีกด้วย

นอกจากนี้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก บริษัท อีสเทิร์นโพลีแพค จำกัด คาดว่าจะได้อานิสงค์จากนโยบายภาครัฐที่ใช้งบประมาณ 3 แสนล้านบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชม และ เอสเอ็มอี ประกอบกับราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ราคาวัตถุดิบซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 40-50% ของต้นทุนการผลิตลดลงด้วย อีสเทิร์นโพลีแพค ยังคงเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับออเดอร์ทั้งในและต่างประเทศโดยได้ติดตั้งเครื่องจักร In-line High Speed Thermoforming และ PET production lines ซึ่งจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ในเดือนตุลาคมนี้

Back to top button