สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 มี.ค. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 มี.ค. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นแอปเปิลและหุ้นเทสลาที่ถูกเทขายอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากภาวะฟองสบู่ในตลาดการเงินทั่วโลก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,391.52 จุด ลดลง 143.99 จุด หรือ -0.46% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,870.29 จุด ลดลง 31.53 จุด หรือ -0.81% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,358.79 จุด ลดลง 230.04 จุด หรือ -1.69%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) หลังจากตลาดพันธบัตรที่มีเสถียรภาพมากขึ้นได้ช่วยหนุนตลาด ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวขึ้นตามราคาน้ำมันและโลหะ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 413.23 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด หรือ +0.19%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,809.73 จุด เพิ่มขึ้น 16.94 จุด หรือ +0.29%, ดัชนี DAX ปิดที่ 14,039.80 จุด เพิ่มขึ้น 26.98 จุด หรือ +0.19% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,613.75 จุด เพิ่มขึ้น 25.22 จุด หรือ +0.38%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มการเงิน ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยแผนงบประมาณของรัฐบาลอังกฤษในวันพุธนี้
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,613.75 จุด เพิ่มขึ้น 25.22 จุด หรือ +0.38%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 60 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (2 มี.ค) โดยได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะประกาศเพิ่มกำลังการผลิตในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 59.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 99 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 62.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ปีนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนครึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.6 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,733.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 20.1 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 26.879 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 23.1 ดอลลาร์ หรือ 1.94% ปิดที่ 1,214.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 19.60 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 2,368.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เพื่อจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลดลง 0.29% แตะที่ 90.7760 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.73 เยน จากระดับ 106.81 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9140 ฟรังก์ จากระดับ 0.9151 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2614 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2652 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2085 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2046 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.3965 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3922 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7829 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7774 ดอลลาร์สหรัฐ