AAV ทยอยเพิ่มเที่ยวบินทุกเส้นทาง ตอบรับสัญญาณท่องเที่ยวมี.ค.ฟื้น
AAV ทยอยเพิ่มเที่ยวบินทุกเส้นทาง ตอบรับสัญญาณท่องเที่ยวมี.ค.ฟื้น
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ คาดว่า ในช่วงเดือน มี.ค.นี้สัญญาณด้านการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่ง AAV จะทยอยเพิ่มเที่ยวบินในทุกเส้นทางให้ครบ 100% ในเดือน เม.ย.จากปัจจุบันที่ให้บริการอยู่ประมาณ 80% จากเที่ยวบินทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว โดยในเส้นทางยอดนิยมได้เพิ่มเที่ยวบินขึ้นต่อเนื่อง เช่น ดอนเมือง-เชียงใหม่ 7 เที่ยวบินต่อวัน สุวรรณภูมิ – เชียงใหม่ 3 เที่ยวบินต่อวัน ดอนเมือง-ภูเก็ต 6 เที่ยวบินต่อวัน ดอนเมือง-หาดใหญ่ 5 เที่ยวบินต่อวัน ดอนเมือง-ขอนแก่น 4 เที่ยวบินต่อวัน และ ดอนเมือง-อุดรธานี 3 เที่ยวบินต่อวัน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน มาตรการด้านสุขอนามัยยังคงนำมาใช้ดูแลผู้โดยสารอย่างเต็มที่ ทั้งการเช็คอินออนไลน์ อีกทั้งบนเครื่องบินพนักงานต้อนรับจะสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน ถุงมือ หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เดินทางทุกคน เมื่อประกอบกับการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้โดยสารที่ปัจจุบันได้มีประสบการณ์และคุ้นชินกับการสวมหน้ากากมาแล้ว ก็ทำให้เชื่อมั่นว่าการเดินทางโดยเครื่องบินจะกลับมารองรับนักเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
“สัญญาณความต้องการเดินทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดูได้จากการออกโปรโมชั่นล่าสุด ตั๋วบินรัวๆ ทั่วไทย ที่แอร์เอเชียได้ปล่อยออกมา ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ขายได้หมดก่อนระยะเวลาที่กำหนด แสดงถึงความต้องการเดินทางภายในประเทศของนักเดินทาง ที่พร้อมแล้วที่จะกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง” นายสันติสุข กล่าว
สำหรับในปีนี้การท่องเที่ยวภายในประเทศ จะเป็นตัวแปรสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องร่วมมือกันส่งเสริมการเดินทางอย่างปลอดภัย เพื่อร่วมมือกันกระตุ้นศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศให้ฟื้นตัวขึ้นได้ในไม่ช้า
ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงการพิจารณารูปแบบการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า คาดว่ามาตรการต่างๆ จะออกมาในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือไปยังจังหวัดต่างๆ ให้มีการจัดงานตามประเพณีของแต่ละจังหวัดด้วยการเน้นวิถีแบบดั้งเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ให้มีการจัดงานที่คำนึงถึงรูปแบบที่อยู่ภายใต้วิถีปกติใหม่ (New Normal) ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของคนในประเทศได้
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ โดยจะเน้นไปกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว โดยจะเน้นไปใน 5 พื้นที่หลักที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว ซึ่งใน 5 พื้นที่ดังกล่าวจะได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเพื่อที่จะให้เกิดความมั่นใจ มีการควบคุมที่ดีเพื่อที่จะไม่ให้มีการระบาดซ้ำ โดยคาดว่าจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศรูปแบบใหม่นี้เข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 3/64 นี้
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณายืดระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการไปเป็นช่วงเดือน ก.ค.64 จากเดิมที่โครงการจะสิ้นสุดในเดือน เม.ย.64 และจะมีการพิจารณาเพิ่มสิทธิอีก 2 ล้านสิทธิ จากเดิมที่ 6 ล้านสิทธิ