สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 มี.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 มี.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดยืนยันว่า เฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,015.37 จุด เพิ่มขึ้น 189.42 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,974.12 จุด เพิ่มขึ้น 11.41 จุด หรือ + 0.29% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,525.20 จุด เพิ่มขึ้น 53.63 จุด หรือ +0.40%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น ขณะรอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะประกาศหลังปิดตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานนำตลาดปรับตัวลงต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 424.91 จุด ลดลง 1.91 จุด หรือ -0.45%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,054.82 จุด ลดลง 0.61 จุด หรือ -0.010%, ดัชนี DAX ปิดที่ 14,596.61 จุด เพิ่มขึ้น 39.03 จุด หรือ +0.27% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,762.67 จุด ลดลง 40.94 จุด หรือ -0.60%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น ขณะรอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดเผยหลังจากตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,762.67 จุด ลดลง 40.94 จุด หรือ -0.60%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่หลายประเทศในยุโรปยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 64.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 68.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังเป็นปัจจัยฉุดตลาดทองคำด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,727.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.5 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 26.058 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 19.8 ดอลลาร์ หรือ 1.62% ปิดที่ 1,199.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 46.40 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 2,538.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด และส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.49% สู่ระดับ 91.4180 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.82 เยน จากระดับ 108.99 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9220 ฟรังก์ จากระดับ 0.9251 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2416 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2443 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1980 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1904 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3949 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3895 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7795 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7745 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button