“องค์กรยายุโรป” แถลงยันวัคซีนแอสตราฯ ปลอดภัย ไฟเขียวใช้ต่อ ชี้ประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง
"องค์กรยายุโรป" แถลงยันวัคซีนแอสตราฯ ปลอดภัย ไฟเขียวใช้ต่อ ชี้ประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง
องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) แถลงเมื่อวันที่ 18 มี.ค.64 ว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดย EMA แนะนำให้ประเทศในยุโรปยังคงใช้วัคซีนนี้ต่อไป ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจะมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี EMA ระบุว่า ยังไม่สามารถตัดความเป็นไปได้โดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกันระหว่างการใช้วัคซีนดังกล่าว และการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งทาง EMA จะยังคงทำการสืบค้นเรื่องดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ EMA ได้จัดการประชุมวาระพิเศษในวันนี้เพื่อหาข้อสรุปต่อรายงานที่ว่า วัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ขณะที่หลายประเทศในยุโรปต่างพากันระงับการใช้วัคซีนดังกล่าว เนื่องจากมีความวิตกต่อรายงานดังกล่าว
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ประเทศต่างๆควรใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาต่อไป ในระหว่างที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ WHO ยังคงทำการพิจารณาทบทวนความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว หลังมีรายงานการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนบางราย
“การฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ช่วยลดอาการป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคอื่น โดยอาการลิ่มเลือดอุดตันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย และอาการลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำนับเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจที่พบเห็นมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ทั่วโลก” แถลงการณ์จาก WHO ระบุ
WHO ระบุว่า แม้เป็นเรื่องปกติที่ประเทศต่างๆจะทำการแจ้งเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดวัคซีน แต่สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่ามีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ดี ถือเป็นเรื่องดีที่จะมีการสืบค้นในเรื่องนี้ และสิ่งนี้แสดงว่าระบบการเฝ้าระวังยังคงใช้การได้ ขณะที่ระบบการควบคุมยังคงมีประสิทธิภาพ
WHO แถลงว่า จะทำการเปิดเผยผลการสืบค้นต่อสาธารณะโดยเร็วที่สุด ทันทีที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ WHO เสร็จสิ้นการพิจารณาทบทวนความปลอดภัยของวัคซีนแอสตร้าเซเนกา ซึ่งขณะนี้ WHO มองว่าประโยชน์ที่ได้รับจากการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา มีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และ WHO ขอแนะนำให้ประเทศต่างๆ ยังคงใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาต่อไป
ขณะนี้ หลายประเทศในยุโรปต่างพากันระงับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา หลังมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากอาการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ และบางรายมีอาการลิ่มเลือดอุดตันในปอดหลังได้รับวัคซีน