RT แรงต่อ 9% จับตารายได้ปีนี้ทะลัก 3.6 พันลบ. โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 3 บ.

RT แรงต่อ 9% จับตารายได้ปีนี้ทะลัก 3.6 พันลบ. โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เป้า 3 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ณ เวลา 10.27 น. อยู่ที่ระดับ 2.68 บาท บวก 0.22 บาท หรือ 8.94% สูงสุดที่ระดับ 2.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.46 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172.20 ล้านบาท

ทั้งนี้ราคาหุ้น RT ปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าว นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RT เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปี 2564 (ปีนี้) จะมีรายได้ประมาณ 3,600 ล้านบาท เติบโตประมาณ 27% จากปีก่อน 2,864 ล้านบาท

โดยแนวโน้มการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/2564 คาดจะเติบโตต่อเนื่องตามแผน เตรียมรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ, งานก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก จ.เลย, งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำแม่แตง-แม่งัด จ.เชียงใหม่ สัญญาที่ 1, งาน Pipe Jacking รถไฟฟ้าสายสีเหลือง รวมทั้งงานที่เหลืออื่น ๆ

ขณะเดียวกัน ล่าสุดบริษัทได้รับงานใหม่ 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 688 ล้านบาท ส่งผลให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 4,240 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2563 ที่มี Backlog จำนวน 3,552 ล้านบาท ซึ่งบริษัทสามารถทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 2564-2565

สำหรับงานใหม่ 13 โครงการ ประกอบด้วย งานระบบระบายน้ำ กรมชลประทาน 1 โครงการ มูลค่า 280.4 ล้านบาท งานท่อร้อยสายไฟใต้ดิน (Pipe Jacking) 2 โครงการ มูลค่ารวม 146.3 ล้านบาท งานป้องกันลาดชัน (Slope Protection) กรมทางหลวง 7 โครงการ มูลค่ารวม 135.3 ล้านบาท งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ กรมชลประทาน 1 โครงการ มูลค่า 84.5 ล้านบาท งานป้องกันลาดชันไหล่เขา (Slope Protection) กรมชลประทาน 1 โครงการ มูลค่า 26.5 ล้านบาท และงานก่อสร้างทาง-บำรุงถนน กรมทางหลวงชนบท 1 โครงการ มูลค่า 14.6 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่บริษัทมีความสนใจเข้าไปประมูลงาน ได้แก่ ปี 2564 โครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่, งานซ่อมบำรุงทางรถไฟ) ในโครงการเด่นชัย-เชียงราย มูลค่า 72,920 ล้านบาท ส่วนปี 2564-2568 งานนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ในโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินในกรุงเทพฯ มูลค่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ปี 2565-2568 งานก่อสร้างทางหลวงแผ่นดิน / งานอุโมงค์ถนน ในโครงการกะทู้ป่าตอง มูลค่า 14,170 ล้านบาท และปี 2566-2571 งานระบบชลประทาน / งานบริหารจัดการน้ำ โครงการผันน้ำขุนยวม มูลค่า 65,000 ล้านบาท

ด้านงานต่างประเทศ มีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำ เขื่อนเดือนตรี ประเทศกัมพูชา (Diversion Tunnel, Duantri Dam, Cambodia) มูลค่า 196 ล้านบาท มีความคืบหน้าก่อสร้างแล้ว 32% คาดว่าจะส่งมอบงานได้เดือนตุลาคม 2564 เพื่อรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือ 128 ล้านบาท ขณะเดียวกันหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย สามารถเดินทางได้ปกติ บริษัทพร้อมเพิ่มโอกาสหางานใหม่ ๆ เพิ่มเติมในต่างประเทศ ทั้งสปป.ลาว เมียนมา (พม่า) และกัมพูชา

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าปี 2564 ธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูง ด้วยปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการลงทุนของภาครัฐตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจงานโครงสร้างพื้นฐานในหลายโครงการ เช่น ระบบขนส่งทางราง งานถนน ระบบบริหารจัดการน้ำในประเทศ ซึ่งงานก่อสร้างเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานมีมูลค่างานสูง และเป็นงานที่มีการก่อสร้างต่อเนื่อง ต้องอาศัยความรู้ความสามารถจากบริษัทที่มีประสบการณ์และความชำนาญพิเศษ ซึ่งมีผู้รับเหมาจำนวนน้อยรายที่ดำเนินธุรกิจได้แบบ RT

“แผนการดำเนินงานมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุก รับงานในประเทศที่มีมาร์จิ้นสูง และงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งบริษัทพร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เช่น อุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย เชียงราย เชียงของ, งานนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน, งานป้องกันลาดชันไหล่ทาง, งานถนน ฯลฯ และมีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและเครื่องจักร-เครื่องมือ ที่สามารถรองรับงานได้ทันที จึงคาดทั้งปี 2564 บริษัทจะมี Backlog เพิ่ม 7,000 ล้านบาทได้” นายชวลิต กล่าว

ด้าน บล.เคทีบี ระบุแนะนำ “ซื้อ” RT ด้วยราคาเป้าหมาย 3 บาท อิง PER ปี 64 ที่ 13 เท่า โดยชอบ RT ต่อเนื่องจาก 1) backlog ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงซึ่งสามารถ secure รายได้อย่างน้อยถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 65 ขณะที่แนวโน้มการเติมโครงการใหม่ยังมีสูงเนื่องด้วยบริษัทเป็นผู้รับเหมางานประเภทที่ niche ซึ่งเป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญและการแข่งขันไม่สูงมาก และ 2) ปัจจุบันเทรดที่ PER ปี 64 เพียง 11 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็กที่ 16 เท่า

Back to top button