FSMART ควัก 140 ลบ. เล็งเพิ่มทุน “ฟอร์ท เวนดิ้ง” หนุนสัดส่วนแตะ 19.34% สู่ New S-curve
FSMART ควัก 140 ลบ. เล็งเพิ่มทุน "ฟอร์ท เวนดิ้ง" หนุนสัดส่วนแตะ 19.34% สู่ New S-curve
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเพิ่มเงินลงทุนใน บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด (FVD) ซึ่งทำธุรกิจคาเฟ่อัตโนมัติภายใต้แบรนด์ “เต่าบิน” จากเดิมบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 10% เพิ่มเป็น 19.34% โดยจะใส่เงินลงทุนเพิ่มอีก 140 ล้านบาท ว่า บริษัทคาดว่าจะดำเนินการใส่เงินเพิ่มทุนได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2564
ส่วนเงินทุนที่จะเพิ่มทุนนั้นบริษัทได้เตรียมเงินลงทุนไว้พร้อมแล้วตามแผนการลงทุน ในปี 2564 ที่จะใช้เงินทุนในการขยายธุรกิจ 400-500 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนใน FVD อยู่ในแผนดำเนินงานของบริษัทอยู่แล้ว และหลังใส่เงินบริษัทจะสามารถรับรู้ผลกำไรเข้ามาตามสัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นได้ และจะสนับสนุนผลดำเนินงานของบริษัทรวมทั้งการให้บริการกับประชาชนครบวงจรมากขึ้น
สำหรับกรณีที่บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อยกเลิกการจัดประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 มิถุนายน 2564 และยกเลิกวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 8 เมษายน 2564 สืบเนื่องจากการหารือกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและหน่วยงานกำกับแล้วมีข้อสรุปร่วมกันว่า FSMART สามารถดำเนินการใส่เงินเพื่อถือหุ้นเพิ่มใน FVD ได้ โดยอาศัยอำนาจของคณะกรรมการบริษัท ในการพิจารณาได้ทันที
อีกทั้งรายการที่จะเกิดขึ้นไม่ได้ถือว่าเป็นรายการเกี่ยวโยง ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 21/2551 และจากการคำนวณขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ โดยอ้างอิงจากงบการเงินรวมล่าสุดของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้ว มีขนาดรายการดังกล่าว ต่ำกว่า 15 % บริษัทจึงไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลตามเกณฑ์รายการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นบริษัทไม่จำเป็นต้องจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น จึงขอแจ้งยกเลิกการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่กำหนดว่าจะจัดในวันที่ 2 มิถุนายน 2564
สำหรับคาเฟ่อัตโนมัติภายใต้แบรนด์ “เต่าบิน” จะเป็น New S-curve หรือธุรกิจที่จะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่สำคัญ ที่จะสนับสนุนให้บริษัทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต รวมทั้งได้ขยายไปยังฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ โดยภายใน 3 ปีนี้ ตั้งเป้าขยายจุดติดตั้งไปตามทำเลคุณภาพที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น ออฟฟิศ สำนักงาน คอนโดมิเนียม ชุมชนที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล รวมทั้งมหาวิทยาลัย ให้ได้ 20,000 จุด และคาเฟ่อัตโนมัติของบริษัทอาจจะเข้ามา Disrupt หรือแทนที่ร้านกาแฟและร้านขายเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ที่ต้องจ้างพนักงานชง เพราะเราใช้ AI หรือหุ่นยนต์ในการชงทำให้ได้รสชาติคงที่และได้มาตรฐาน โดยใช้เมล็ดกาแฟสดคัดพิเศษและส่วนผสมคุณภาพสูง นอกจากเมนูกาแฟต่าง ๆ ทั้งแก้วร้อนและเย็นแล้วยังมีเมนูเครื่องดื่มรวมกันมากกว่า 80 เมนู ที่สามารถขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุด
ทั้งนี้ในปี 2562 FVD มีรายได้รวม 207.84 ล้านบาทเพิ่มขึ้น จากปี 2561 ที่มีรายได้ 137.53ล้านบาท และจากปี 2560 ที่มีรายได้ 78.96 ล้านบาท