JMT เดินหน้าขยายธุรกิจ หวังขึ้นแท่นผู้นำ “บริหารสินทรัพย์” ครบวงจร
JMT เดินหน้าขยายธุรกิจ หวังขึ้นแท่นผู้นำ "บริหารสินทรัพย์" ครบวงจร
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้นำธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติในหลักการให้บริษัทเข้าลงทุนในบริษัท ทรู แวลูเอชั่น จำกัด และบริษัท เค.ที.แอพไพรซัล จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผู้ประเมินราคาสินทรัพย์
โดยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 55 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทของเคทีฯ และทรูฯ มูลค่าเงินลงทุนรวมไม่เกิน 18 ล้านบาท จากการมองเห็นโอกาสในการสร้าง Ecosystem ของธุรกิจ ด้วยการทำ Vertical Integration เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เนื่องจาก JMT เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีกับสถาบันการเงิน ซึ่งมีดีมานด์ในการใช้บริการประเมินมูลค่าสินทรัพย์อยู่แล้ว และยังไม่รวมถึงการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ในกลุ่มเจมาร์ทด้วย
นายสุทธิรักษ์ กล่าวต่ออีกว่า เราได้เจรจาในการเข้าซื้อกิจการประเมินนี้ เนื่องจาก เป็นผู้ประเมินที่ได้รับการยอมรับในด้านการประเมินราคา คุณภาพของการให้บริการประเมินราคา และความรวดเร็วในการให้บริการกับสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ได้เจรจาแผนธุรกิจต่อเนื่อง จากธุรกิจในปัจจุบัน เช่น การทำ Surveyor ในธุรกิจประกันภัย และอสังหาริมทรัพย์
รวมทั้ง การใช้โอกาสในการกระจายการให้บริการทางด้านการประเมินราคา โดยไปตั้งศูนย์ประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศในสาขา JMT จะทำให้ ตอบโจทย์ความเร็วในการให้บริการประเมินมูลค่าสินทรัพย์กับสถาบันการเงินที่เป็นพาร์ทเนอร์ของบริษัท และยังไม่รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยี เข้ามาใช้ในธุรกิจประเมิน จะเป็นจุดเด่นที่ทำให้ JMT แข็งแกร่ง มุ่งสู่การเป็นผู้นำตลาดอย่างมีคุณภาพ และยังสนับสนุนการดำเนินงานให้ JMT และกลุ่มบริษัทเจมาร์ท ขยายโอกาสในอนาคต
โดยก่อนหน้านี้ JMT ได้ร่วมกับ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) บ.เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด (KB J Capital) และ บ.เจมาร์ท โมบาย จำกัด (JMB) บริษัทในเครือของกลุ่มเจมาร์ท เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์รอการขาย (NPA) โดยเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิม หรือ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ทั้งการซื้อหนี้ที่มีหลักประกัน (NPA) และไม่มีหลักประกัน (NPL) เข้ามาบริหาร ซึ่งที่ผ่านมา JMT ประมูลซื้อหนี้เข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทั้งประเภท บ้าน คอนโด และอาคารพาณิชย์ ปัจจุบัน พอร์ต NPA มีอยู่ในมือแล้วประมาณ 200 หลัง และคาดว่าจะมี 500 หลัง ภายในปีนี้ รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท การลงทุนในบริษัทประเมินสินทรัพย์ครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มความครบวงจรในธุรกิจดังกล่าว