Apple & Tesla บิ๊กดีลพลังงานทดแทนโลก

ถือเป็นข่าวใหญ่สนั่นวงการพลังงานทดแทนโลก กรณี Apple Inc. ผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยของโลก กับ Tesla Inc. ผู้นำออกแบบ ผลิตและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าของโลก จับมือกันสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหญ่ที่สุดในโลก


เมกะเทรนด์ : สุภชัย ปกป้อง

ถือเป็นข่าวใหญ่สนั่นวงการพลังงานทดแทนโลก กรณี Apple Inc. ผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยของโลก กับ Tesla Inc. ผู้นำออกแบบ ผลิตและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าของโลก จับมือกันสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหญ่ที่สุดในโลก

โดย Apple ประกาศว่าจะสร้างโรงงานจัดเก็บพลังงานหมุนเวียนจากแบตเตอรี่ที่ใหญ่สุดในสหรัฐฯ ตัวโรงงานที่กำ ลังจะสร้างขึ้นอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จากพลังงานแสงอาทิตย์ของ Apple ภายใต้ชื่อว่า California Flats” อีกด้วย ตามโครงการพลังงานสะอาดใหม่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยการตั้งศูนย์กักเก็บพลังงานสำรองกว่า 240 ล้านวัตต์ ที่สำคัญ Apple เลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของ Tesla เพื่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนด้วยแบตเตอรี่ ดังกล่าว

ปัจจุบันฟาร์ม Solar Cell ของ Apple รัฐแคลิฟอร์เนีย สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 130 ล้านวัตต์ ส่วน ศูนย์กักเก็บพลังงาน มีแผนการสร้างโรงงานใหม่เพื่อให้สะสมพลังงานได้ 240 ล้านวัตต์ เป็นพลังงานที่มากเพียงพอจ่ายไฟให้ 7,000 ครัวเรือน เป็นเวลา 1 วัน

จากตัวเลขการกักเก็บพลังงานมากขนาดนี้ ทำให้โครงการนี้กลายเป็นโครงการแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากโครงการลักษณะเดียวกันนี้ของ Tesla ที่ติดตั้งในทางภาครัฐ ช่วงตอนใต้ของออสเตรเลีย มีความจุไฟฟ้าเพียง 193.5 ล้านวัตต์

อย่างไรก็ดีเอกสารอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไม่ได้มีการระบุโดยตรงถึง Tesla แต่ The Verge เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีจากอเมริกา รายงานว่า จากเอกสารที่ยื่นขออนุมัติจัดทำโครงการของภาครัฐ ระบุว่า จะใช้ Tesla Megapacks จำนวน 85 ตู้ ว่ากันว่าทำให้โครงการนี้ Apple อาจต้องจ่ายค่าแบตเตอรี่ให้ Tesla ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา Apple และ Tesla มีการแย่งชิงตัววิศวกรและผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านหลายครั้ง แต่สุดท้าย Apple หนีไม่พ้นต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ของ Tesla เพื่อให้เป้าหมายพลังงานสะอาด โดย Apple มีแผนจะให้พันธ มิตรและห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด “ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์” ตามเป้าหมายภายในปี 2030

ปัจจุบัน Apple มีการใช้เงินลงทุนจำนวนมากกับ “พลังงานแสงอาทิตย์” และ “พลังงานลม” แต่ปัญหาคือพลังงานดังกล่าวไม่สามารถตอบโจทย์การทำงานตลอดเวลา การมีแบตเตอรี่เพื่อกักเก็บพลังงานช่วงที่มีการใช้งานน้อยและนำมาใช้ช่วงที่ไม่สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ จึงเป็นสิ่งที่ Apple ไม่อาจปฏิเสธได้

ที่ผ่านมา Apple และ Tesla บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลก อาจยังไม่เห็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจกันมากนัก แต่สัญญาณที่ Elon Musk ซีอีโอ Tesla ส่งออกมาเกี่ยวกับความพยายามเสนอแนวคิดให้ Apple ซื้อหุ้น Tesla ช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา

การร่วมมือของสองผู้ยิ่งใหญ่ด้านเทคโนโลยีโลกครั้งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นการต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนโลกต่อไป..!!!

Back to top button