STA ลุ้นปี 64 กำไรทะลุหมื่นลบ. รับดีมานด์ยางพาราพุ่ง-ส่งออกโต
STA ลุ้นปี 64 กำไรทะลุหมื่นลบ. รับดีมานด์ยางพาราพุ่ง-ส่งออกโต
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูล บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA พบว่า เป็นหนึ่งในบริษัทจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ต.ค. 2563 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 และกำไรสะสม โดยมีการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1.75 บาท โดยกำหนดวันไม่ได้รับสิทธิปันผล หรือขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 12 เม.ย. 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เม.ย. 2564 และคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 3.72% (จากราคาปิดตลาดล่าสุด ณ วันที่ 5 เม.ย.2564 ที่ราคา 4.70 บาท)
นอกเหนือจากมีการจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นแล้ว สิ่งที่น่าสนใจตามมาเมื่อเข้าไปดูบทวิเคราะห์ของ บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 65 บาท โดยมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของกำไรของ STA ระยะยาวค่อนข้างมาก หลังจากที่บริษัทประกาศที่จะลงทุนในธุรกิจกัญชงซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่จะเพิ่มกำไรให้กับบริษัทอย่างมีนัยนะตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ต่อยอดจากธุรกิจถุงมือยาง (ถือ 56% ในบริษัท STGT ทั้งทางตรงและทางอ้อม) ที่ทำให้กำไรบริษัทเติบโตดีตั้งแต่ 2563-2566
โดย STA มีศักยภาพและความพร้อมมากที่จะทำธุรกิจกัญชง เทียบกับบริษัทอื่นๆ เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูก และเป็นธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูงที่รัฐบาลให้การส่งเสริมมาก โดยสามารถนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมเช่น อาหาร, ยา, เครื่องดื่ม และ ผลิตภัณฑ์ความงามปัจจุบัน STA อยู่ระหว่างยื่นขอในอนุญาตปลูกกัญชง โดยบริษัทตั้งเป้าจะเป็นผู้ปลูกกัญชงรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และจะเริ่มต้นปลูกกัญชงเฟสแรก 100-200 ไร่ ในปี 2564 และมีแผนจะขยายเป็น 2,000 ไร่ ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ยังปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-2565 ขึ้น 61%/50% โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 16,137 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบจากปีก่อน) และปี 2565 ที่ 14,959 ล้านบาท (ลดลง 7% เมื่อเทียบจากปีก่อน) สะท้อนกำไรที่ปรับเพิ่มขึ้นของธุรกิจถุงมือยาง (STGT) เป็นหลัก จากราคาถุงมือยางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก และกำไรจากธุรกิจกัญชงเล็กน้อย
โดยคาดว่าธุรกิจกัญชงจะสร้างกำไรให้กับบริษัทอย่างมีนัยนะตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป เบื้องต้นสมมุติฐานเคทีบีเอสที เพิ่มธุรกิจปลูกกัญชงเข้าไปในปี 2564 จำนวน 150 ไร่/crop/ปี และ ปี 2565 จำนวน 300 ไร่/2crops/ปี และ 2,000 ไร่ ภายในปี 2568
โดยสอดคล้องกับบล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น STA ประเมินราคาเป้าหมายที่ 55 บาท/หุ้น โดยการส่งออกยางพาราโตขึ้น 22.9% เมื่อเทียบจากปีก่อน ท่ามกลางสภาวะขาดแคลนอุปทาน และจากอุปสงค์จากกลุ่มผลิตยางยนต์และสินค้าจำพวกยาง รวมถึงการส่งออกถุงมือยางที่แข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 214.8% ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อ STA
รวมถึง บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” STA ราคาเป้าหมาย 52.80 บาท/หุ้น โดย STA ขยายฐานธุรกิจไปยังกลุ่มกัญชง โดยคาดว่าผลิตผลกลุ่มแรกจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ราวเดือนต.ค. 2564
ทั้งนี้บล.ทรีนีตี้ ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 2564 จาก 1.65 หมื่นล้านบาท เป็น 1.98 หมื่นล้านบาท เติบโต 108% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากรายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 60.65% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากยอดจำหน่ายถุงมือยางที่เติบโตต่อเนื่องและจาก ASP ของยางธรรมชาติที่ฟื้นตัวแกร่ง