ศาลรธน. รับคำร้องวินิจฉัยเฉพาะสถานะ ส.ส. 5 จำเลยคดี กปปส. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องวินิจฉัยเฉพาะสถานะ ส.ส. 5 จำเลยคดี กปปส. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้ยื่นชี้แจงกลับภายใน 15 วัน
ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพส.ส. ของนายชุมพล จุลใส นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายอิสสระ สมชัย นายถาวร เสนเนียม และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้ถูกร้องที่ 1-5 เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกผู้ถูกร้องทั้ง 5 และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องที่ 1, 3, 5 มีกำหนด 5 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา โดยศาลอาญาออกหมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์ฎีกา และขังผู้ถูกร้องทั้ง 5 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ต่อมาผู้ถูกร้องทั้ง 5 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์
โดย กกต.พิจารณากรณีผู้ถูกร้องทั้ง 5 ดังกล่าวแล้ววินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้องที่ 1, 3, 5 เป็นบุคคลที่อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล ส่วนผู้ถูกร้องที่ 2, 4 เป็นบุคคลต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส. ของผู้ถูกร้องทั้ง 5 ราย สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) (6) และมาตรา 96 (2) และเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องที่ 2, 4, 5 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (6) (7) มาตรา 98 (4) (6) และมาตรา 96 (2) กกต. จึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย และขอให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 5 หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีที่ผู้ร้องขอให้วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องที่ 1-5 สิ้นสุดลงหรือไม่ เห็นว่า กรณีต้องรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ ประกอบวรรคหนึ่ง และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (5) จึงสั่งรับคำร้องเฉพาะในส่วนกรณีของสมาชิกภาพของ ส.ส. ของผู้ถูกร้องที่ 1-5 สิ้นสุดลงไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 5 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
สำหรับคำขอให้ผู้ถูกร้องที่ 1-5 หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสองนั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏว่า ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกผู้ถูกร้องที่ 1-5 และผู้ถูกร้องทั้ง 5 ถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องที่ 1, 3, 5 มีกำหนด 5 ปีนับแต่วันที่คำพิพากษา กรณีปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 5 หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย และให้แจ้งผู้ร้อง และประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบ
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2564 มีพระบรมราชโองการประกาศว่า ผู้ถูกร้องที่ 2, 4, 5 พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจึงสั่งไม่รับคำร้องเฉพาะกรณีความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องที่ 2, 4, 5 สิ้นสุดลงเฉพาะตัว