SAWAD มองธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตสูงเหตุความต้องการสินเชื่อรายย่อยยังมาก
SAWAD โบรกฯมองความต้องการสินเชื่อของรายย่อยยังคงมีอยู่มาก ผลักดันการเติบโตอย่างโดดเด่นโดยวิเคราะห์อุตสาหกรรมด้วย 5 forces model ซึ่งพบว่ายังน่าสนใจลงทุน จากแม้จะมีการแข่งขันสูงเพราะให้ผลตอบแทนดี แต่เรายังมองเห็นถึงโอกาสในการเติบโตสูงเนื่องจากการขาดวินัยในการใช้เงินของไทยและแนวโน้มการใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น จึงทำให้คาดคนจะกู้ยืมากขึ้น และเรายังมองว่าจากจุดแข็งของผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อยที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันทั้งในด้านการยอมรับความเสี่ยได้มากกว่าธนาคารพาณิชย์ มีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าหนี้นอกระบบ และมีสาขาที่กระจายอย่างทั่วถึง จึงเป็นโอกาสในการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากสถาบันการเงินอื่นๆ
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ย.) ว่า บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่รายแรกๆที่ขยายสาขาเชิงรุก จนในปัจจุบันมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้สามารถสร้างฐานลูกค้าได้ ส่งเสริมการเติบโตของสินเชื่ออนาคต ประกอบกับการมีความสามารถในการทำกำไรสูงกว่าคู่แข่ง (NIM) จึงเป็นปัจจัยผลักดันทำให้คาดการเติบโตของกำไรสุทธิจะโดดเด่น โดยช่วงปี 58-60 คาดโตเฉลี่ยปีละ 38% และใน 59 จะเติบโตสูงถึง 43%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนประกอบกับด้าน valuation ที่ยังซื้อขายถูกกว่า MTLS
ความต้องการสินเชื่อของรายย่อยยังคงมีอยู่มาก ผลักดันการเติบโตอย่างโดดเด่นโดยวิเคราะห์อุตสาหกรรมด้วย 5 forces model ซึ่งพบว่ายังน่าสนใจลงทุน จากแม้จะมีการแข่งขันสูงเพราะให้ผลตอบแทนดี แต่เรายังมองเห็นถึงโอกาสในการเติบโตสูงเนื่องจากการขาดวินัยในการใช้เงินของไทยและแนวโน้มการใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น จึงทำให้คาดคนจะกู้ยืมากขึ้น และเรายังมองว่าจากจุดแข็งของผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อยที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันทั้งในด้านการยอมรับความเสี่ยได้มากกว่าธนาคารพาณิชย์ มีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าหนี้นอกระบบ และมีสาขาที่กระจายอย่างทั่วถึง จึงเป็นโอกาสในการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากสถาบันการเงินอื่นๆ
นอกจากนี้อุตสาหกรรมนี้มีกำแพงป้องกันคู่แข่งรายใหม่เข้ามาในตลาด ประกอบกับทั้งผู้ซื้อ (buyers) และผู้เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต (suppliers) ยังมีอำนาจต่อรองต่ำ
คาดกำไรสุทธิกลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 40% p.a. ในช่วงปี 58-60 โดยมีปัจจัยผลักดันทีสำคัญคือ i) การขยายสาขาอย่างมากของบริษัทในกลุ่ม ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้สินเชื่อเติบโตอย่างโดดเด่นกว่า 34% p.a. ส่งผลถึงรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่คาดเพิ่มขึ้น 36% ต่อปีในช่วงเวลาเดียวกัน ii) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิคาดเติบโตดีเช่นกันที่ 37% ต่อปี ผลักดันจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของ SAWAD iii) NIM ที่คาดยังสามารถรักษาระดับได้สูงโดดเด่นที่ 23.7% iv) Cost to income ratio ที่จะค่อยๆลดลงจาก 52.1% ใน FY14 เป็น 49.4% ใน FY17F จากภาระค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาที่บางเบาลงในช่วง FY17F ที่การขยายสาขาไม่ aggressive มากเช่นในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา
เลือก SAWAD เป็น Top pick เพราะมีสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้คาดการเติบโตของสินเชื่ออย่างก้าวกระโดด ประกอบกับการมีความสามารถในการทำกำไร (NIM) ที่สูงโดดเด่น นอกจากนี้ยังอยู่ในช่วงสร้างฐานรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยขึ้นมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันให้กำไรสุทธิยังคงเติบโตต่อเนื่อง จึงทำให้คาดช่วง ปี 58-60 คาดโตเฉลี่ยปีละ 38% และใน59 จะเติบโตสูงถึง 43% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน