GBS จัดทัพ 12 “หุ้นเด่น” เล่นรับอานิสงส์ “บาทอ่อน – WFH”
GBS จัดทัพ 12 “หุ้นเด่น” เล่นรับอานิสงส์ “บาทอ่อน – WFH”
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการธนาคารที่แข็งแกร่ง ขณะที่แรงกดดันหลักยังอยู่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,600 จุด
อย่างไรก็ตามยังคงจับตาการประชุมครม.บริษัทจดทะเบียนจะทยอยประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 ออกมานำโดยกลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มแรกที่จะประกาศภายในวันที่ 21 เมษายนนี้ ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมีแนวโน้มลดน้อยลงจากไตรมาสที่แล้ว
อีกทั้งทางสหรัฐจะมีการรายงานของสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมี.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ส่วนทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่ปัจจัยบวก อาทิ ไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัว 18.3% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากฐานที่ระดับต่ำในช่วงต้นปี 2563 และกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มชะลอและลดลงใน 2 สัปดาห์ หลังภาครัฐและหน่วยงานเอกชน Work from Home มากขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้
ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอยู่ในโซนอ่อนค่า ได้แก่ KCE, HANA, DELTA และ SMT รวมทั้งหุ้นได้ประโยชน์จาก WFH ได้แก่ COM7-SYNEX-SIS-HMPRO-ILM-ITEL- INSET-NETBAY
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,755-1,795 $/Oz หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 25,850-26,490 บาทต่อบาททองคำ โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงแตะระดับ 1.54% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อีกทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นผลบวกต่อทองคำเพิ่มเติม แนะนำ เน้นฝั่ง Long เมื่ออ่อนตัว