CEO พึ่งได้กว่ารัฐ ?
หอการค้าไทยจัดประชุม CEO บริษัทใหญ่ 40 บริษัท เห็นตรงกันว่าประเทศไทยได้วัคซีนล่าช้ามาก สำหรับการเปิดประเทศที่ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากร รัฐต้องจัดหาวัคซีนให้เพียงพอกับทุกคน โดย CEO ทุกคนพร้อมจะช่วย หอการค้าพร้อมเป็นตัวกลาง Connect the Dots
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
หอการค้าไทยจัดประชุม CEO บริษัทใหญ่ 40 บริษัท เห็นตรงกันว่าประเทศไทยได้วัคซีนล่าช้ามาก สำหรับการเปิดประเทศที่ต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากร รัฐต้องจัดหาวัคซีนให้เพียงพอกับทุกคน โดย CEO ทุกคนพร้อมจะช่วย หอการค้าพร้อมเป็นตัวกลาง Connect the Dots
ไม่เพียงเท่านั้น หอการค้ายังแบ่งงานเป็น 4 ทีม ได้แก่ ทีมสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน ทีมสื่อสารกระตุ้นให้ประชาชนมาฉีด ทีมเทคโนโลยีและระบบ ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ซึ่งประเมินว่ายังต้องการวัคซีนทางเลือกอีก 30 ล้านโดส โดยภาคเอกชนยินดีจ่ายค่าวัคซีนให้พนักงานของตัวเองเกือบ 1 ล้านคน
ว่ากันตรง ๆ นี่คือปฏิกิริยาที่ภาคเอกชนอดรนทนไม่ได้อีกแล้ว กับความล่าช้า ห่วยแตก ไร้ประสิทธิภาพของรัฐ จนต้องจัดทีมทำงานกันเอง เห็นภาพชัดเจนกว่ารัฐทำ เพราะถ้าไม่ทำ คงฉิบหายกันหมดทั้งประเทศ
นั่นทั้ง ๆ ที่จำนวนมากก็เป็นภาคเอกชนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐ SCG ซีพี ไทยเบฟ เดอะมอลล์ เซ็นทรัล ห้างร้าน โรงพยาบาล ธนาคารต่าง ๆ
แล้วประยุทธ์ทำไง ประยุทธ์ตีขลุม ขอบคุณที่ร่วมแรงร่วมใจ #รวมไทยสร้างชาติ จากที่ภาคเอกชนเหลืออดจนต้องลงมือกันเองเพราะรัฐล้มเหลว เอาไปอ้างเป็นความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจสนับสนุนรัฐบาล (ขอบคุณหมอเหรียญทองอีกต่างหาก)
ไม่ทันข้ามวัน ประยุทธ์ก็ประกาศ “อาจ” ได้วัคซีนไฟเซอร์ 5-10 ล้านโดสในเดือนกรกฎาคม ซึ่งน่าประหลาดมาก ก่อนนี้ไม่มีวี่แวว พอทีม CEO ขยับปุ๊บไฟเซอร์มาปั๊บ
ก็แล้วแต่ทัศนะ ใครจะเชื่ออย่างไร หนึ่ง ภาคเอกชนไขลานทำให้ภาครัฐขวนขวาย ไปติดต่อไฟเซอร์มาจนได้ หรือสอง ภาคเอกชนไทยนั่นแหละใช้เครือข่าย ล็อบบี้ไฟเซอร์จนซื้อได้ แต่เอามาให้เป็นผลงานรัฐบาลเพื่อรักษาหน้ากันบ้าง
วัคซีนไฟเซอร์ไม่ใช่ได้กันง่าย ๆ นะครับ ในช่วงที่ทั้งโลกต้องการ เพราะซิโนแวคประสิทธิภาพต่ำ แม้มีวัคซีนยังดีกว่าไม่มี แอสตราเซเนกา กับจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน มีปัญหาคล้ายกันคือมีผลข้างเคียง ไฟเซอร์กับโมเดอร์นาใช้เทคนิค mRNA มีข่าวด้านลบน้อยที่สุด แม้ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิติดลบ ก็เป็นที่ต้องการอย่างสูง
อันดับแรก ก็หวังว่า “อาจ” ของประยุทธ์จะไม่ทำให้คนทั้งประเทศผิดหวัง กรกฎาคม สิงหาคม ถ้ายังไม่ได้ยิ่งพัง แต่อันดับสอง คือถ้าได้ไฟเซอร์มาจริง ก็จะมีปัญหาการจัดลำดับชั้นวัคซีน ใคร ๆ ก็อยากฉีดไฟเซอร์ แล้วจะมีอภิสิทธิ์ชนอีกไหม
ถึงวันนี้ ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องโจมตีรัฐบาลแล้วว่า จัดหาวัคซีนล่าช้า เพราะชาวบ้านด่าเอง ด่าเป็นไฟ ตั้งแต่เศรษฐีถึงยาจก พวกหมอที่ปกป้องรัฐ อ้างว่า COVAX ก็ล่าช้าเหมือนกัน หรืออ้างว่าการมีโรงงานผลิตวัคซีนเองเป็นภูมิคุ้มกันระยะยาว ฯลฯ เสียหมอ (เสีย หม-) ไปหมดแล้ว
ขนาดธนาธรก็ไม่ต้องซ้ำเติมอะไร พูดให้กำลังใจรัฐบาลได้แบบนิ่ม ๆ นี่ยังสงสัยว่าถ้าสั่งฟ้อง 112 ธนาธรไม่ได้ประกัน โทษฐานทักท้วงการจัดซื้อวัคซีน “แทงม้าตัวเดียว” สังคมจะรู้สึกอย่างไร (ไม่ใช่เรื่องของเราทำมาหากินดีกว่า)
ความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการจัดหาวัคซีน ในการควบคุมโควิด ทำให้ประชาชนทุกระดับเหลืออด แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับรัฐบาล
รัฐบาลนี้ทำให้คนไม่มีทางเลือก เพราะระบอบอำนาจบล็อกตาย ยุบสภาลาออกก็คืนอำนาจให้ 250 ส.ว. ทั้งที่หากเป็นรัฐบาลจากเลือกตั้ง คงพังไปนานแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายคงล็อบบี้ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ไล่ยุบสภาลาออก หรือไม่งั้นก็หนุนทหารยึดอำนาจแบบปี 2549, 2557 ซึ่งบริษัทใหญ่หลายรายเผยตัวอ้าซ่า CEO บางคนเป็นฝรั่งหัวใจไทย แก้ต่างให้รัฐประหารล้มประชาธิปไตยจำกัดสิทธิเสรีภาพ
ถึงวันนี้มีแต่ลากถูกันไป ฉิบหายแค่ไหนก็ต้องทนกับรัฐบาล