ช้อนได้..ก็ช้อน

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* ประเด็นของเศรษฐกิจช่วงนี้คงไม่มีอะไรตื่นเต้นมากนัก เพราะทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า สถานการณ์เดือน เม.ย. อยู่ในสภาพยับเยินขนาดไหน? จึงไม่ควรเสียเวลานั่งอาลัยอาวรณ์ให้เสียเซลฟ์ หลังโมเมนตัมที่แย่สุด ๆ กำลังจะผ่านพ้นไปในไม่ช้า (หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น) “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเล็งถึงโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมาอีกรอบ เพราะเดือน พ.ค. น่าจะมีอะไรที่ดีขึ้นเป็นรูปธรรมบ้างล่ะค่ะ

* วันนี้ถึงอยากให้ทุกคนช่วยกันหวดก้นรัฐบาล ลุงเฉื่อย..อุ๊ย..ลุงตู่ เพื่อทำให้การแก้ปัญหามีความบูรณาการมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังเป็นการกำหราบท่าทียโสโอหังของ “หมอหนู” ไปในตัวแบบนี้ “โมนิก้า” คิดว่า เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ของประเทศเอาด้วยอยู่แล้ว แถมวันนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่เสียงผู้คนก่นด่าไม่ขาดสาย เดี๊ยนถึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องหันมาฟังเสียงคนหาเช้ากินค่ำกันบ้างนะคะ

* สถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับการแกว่งตัวรอข่าวดีของดัชนี แถมตลาดหุ้นกำลังเงี่ยหูฟังปัจจัยบวกใหม่ ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นเงินในระบบเศรษฐกิจ และเหตุนี้เองที่ทำให้นักเล่นกลุ่มต่าง ๆ หันมาใช้ยุทธวิธี “เคาะสั้น ๆ” เพื่อลดความเสี่ยงในการถือหุ้น ดัชนีเลยทำได้ดีสุดแค่บวก 7 จุดช่วงเปิดเทรด แต่หลังจากนั้นโรยตัวลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,568.21 จุด ลบไป 11.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.33 หมื่นล้านบาทนะจ๊ะ

* คล้ายกับกรณีของหุ้น SAWAD ย่อตัวลงมาปิดที่ 83.50 บาท ลบไป 4.75 บาท หรือลงไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.79 พันล้านบาท ก็เป็นการ take profit ธรรมดา ไม่ได้มีอะไรที่ผิดไปจากปกติ บวกกับเป็นจังหวะรอคอนเฟิร์มข่าวดีอย่างเป็นทางการ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินความสามารถของตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่า กล้าเข้าไปรับหุ้นแถวนี้ไหม? เพราะฐานหุ้นที่เล่นกันมาเป็นเดือนอยู่แถว 81 บาทน่ะสิ

* เหมือนกับการทรุดตัวของลูกอ๊อด AOT ในช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมา ล้วนได้รับผลกระทบจากโควิดทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงต้องชี้ให้แฟนคลับดูว่า การลงมายืนปิดที่ 63.75 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.70 พันล้านบาท ซึ่งมีแนวรับที่เล่นประจำอยู่แถว 60 บาท ใช่จังหวะของการเข้าไปช้อนหุ้นหรือเปล่า? หรือจะถอยร่นแบบสุดซอยไปรับแถว 55 บาท ซึ่งเป็นจุดที่โควิดระบาดรอบสองอ่ะป่าว!..ลองไปคิดกันดูนะตัวเอง

* ในเมื่อต้องใช้ความคิดขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเอ่ยถึงหุ้นเดินเรือ PSL เพื่อพูดถึงจุดพีคของธุรกิจจะจบลงในไตรมาส 2 ต่อจากนั้นจะไม่มีอะไรโดดเด่นอีกต่อไปนั้น มันเป็นสถานการณ์ที่ขาลุยต้องเผื่อทางหนีทีไล่ไว้บ้าง เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 17.30 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 10.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.81 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 6 ปี 7 เดือน ทำให้เดี๊ยน เสียวหู..อุ๊ย..เสียวหลัง เหลือเกินเจ้าค่ะ

* คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นเล็กอย่าง RPC จู่ ๆ กระชากขึ้นพรวดพราด ก่อนจะปิดที่ระดับ 0.94 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 300 ล้านบาท เหมือนเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า นักเล่นเบนเข็มไปลุยหุ้นเล็กเต็มตัว และคงได้เห็นแสงสีเขียว ๆ วิบวับสักระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นจะถูก take profit อย่างหนัก เพื่อทดสอบแรงช้อนซื้อมีเยอะขนาดไหน? ประจวบกับเป็นช่วงประกาศงบพอดี..เลยต้องซัดกันอีกยกไงล่ะคะ

* ส่วนรายที่ซัดกันหนัก ๆ และมีความเป็นไปได้จะใส่กันไฟแล่บ “โมนิก้า” คงต้องเหลือบมองไปที่หุ้น GJS ของตั้วเฮีย “สมศักดิ์” หลังราคาหุ้นกระชากขึ้นต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่ 0.36 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 16.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 280 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่มาพร้อมสตอรี่ “เทิร์นอะราวด์” ผสานกับหุ้นยังต่ำกว่าบุ๊ก 0.50 บาท จึงกลายเป็นช็อตเด็ดกีฬามันที่ขาปั่นน่องเหล็กใส่กันหนุบหนับเจ้าค่ะ

* เช่นเดียวกับอดีตหุ้นปั่น KIAT จู่ ๆ ก็ขึ้นมาผงาดบนกระดาน mai เสียอย่างนั้น! ทำเอาบรรดาขาเผือกเกิดอาการก้นร้อน และอยากสอดรู้สอดเห็นขึ้นมาในทันที เพราะการกระชากขึ้นมาปิดที่ 0.71 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 7.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 423 ล้านบาท มันคล้ายกับเหตุการณ์ในอดีตที่เดอะแก๊งเข้ามาดันหุ้นแบบสุดซอย ทั้งที่ในกอไผ่มีแต่หน่อไม้แบบนี้ เดี๊ยนกล้าพูดทันทีว่า เดี๋ยวได้เห็นมหกรรม “ลากทุบ” วนไปเรื่อย ๆ พะยะค่ะ