“หมอยง” โพสต์เฟสบุ๊ก “ไม่อยากได้ยินชื่อไวรัสสายพันธุ์ไทย” แนะเพิ่มอัตราตรวจเชิงรุก
"หมอยง" โพสต์เฟสบุ๊ก "ไม่อยากได้ยินชื่อไวรัสสายพันธุ์ไทย" แนะเพิ่มอัตราตรวจเชิงรุก-รัฐควบคุมค่าตรวจในราคาเหมาะสม-แยกผู้ป่วยออกจากประชากรให้ได้มากที่สุด เพื่่อควบคุมการเพื่อระบาด
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก “Yong Poovorawan” ระบุว่า “โควิด-19 ระบาดในประเทศไทยแพร่กระจายและติดต่อได้ง่าย ดังที่ได้เคยเรียนมาแล้ว สายพันธุ์อังกฤษแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ตัวอย่างที่เห็นชัดก็ในประเทศอังกฤษในเดือนธันวาคม ทำให้ระบบการแพทย์ของอังกฤษแทบล้มเหลว
สายพันธุ์เดิม สมมุติว่าต้องรับเชื้อ 100 ตัวจึงจะติดและเกิดโรคได้ สายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์อังกฤษการรับเชื้ออาจจะเหลือแค่ 50 ตัวก็สามารถติดและเกิดโรคได้ สายพันธุ์นี้เกาะติดกับเซลล์ของเราได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิมจึงแพร่กระจายได้ง่ายอย่างที่เห็น มาตรการที่ใช้ในการป้องกันต้องมากกว่าสายพันธุ์เดิม
การระบาดในวงจรแรกจะอยู่ในสถานบันเทิง และจะอยู่ในตัวเมืองใหญ่ การแพร่กระจายจะออกนอกตัวเมืองใหญ่ไปยังตัวเมืองต่างจังหวัด ในวงจรต่อๆ ไป และจากต่างจังหวัดในตัวเมืองก็จะเริ่มออกสู่อำเภอ และตำบล และจะลงสู่หมู่บ้าน เราเห็นตัวอย่างได้จากหลายประเทศ เริ่มจากเมืองใหญ่ก่อน การหยุดการเคลื่อนที่ของประชาชนเป็นหนึ่งในวิธีของการหยุดการแพร่กระจาย ช่วงสงกรานต์เป็นช่วงที่มีการเคลื่อนที่ของประชาชนมากที่สุด การควบคุมต่อไปนี้จะต้องใช้วิธีการที่มากขึ้นจึงจะควบคุมโรคได้
การตรวจผู้สงสัยจะต้องตรวจเชิงรุก ทุกรายที่ตรวจให้ผลบวกจะต้องเข้าสู่โรงพยาบาลสนามหรือโรงแรมที่กำหนด ผู้ป่วยที่มีอาการมากเท่านั้นจึงจะรับการรักษาไว้ในโรงพยาบาล โรงพยาบาลทุกแห่งควรเพิ่มอัตราการตรวจให้เพิ่มขึ้น และทางฝ่ายรัฐจะต้องเป็นผู้ดูแล ผู้ที่ตรวจให้ผลบวกทั้งหมด และจัดสรรผู้ที่มีอาการมากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ถ้าให้โรงพยาบาลที่ตรวจพบเป็นผู้จัดการผู้ป่วยเอง เมื่อจัดการไม่ได้ก็จะงดการตรวจ หรือจำกัดการตรวจ ฝ่ายรัฐควรควบคุมค่าตรวจให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมในมาตรฐานเดียวทั้งประเทศ และให้ห้องปฏิบัติการช่วยกันตรวจให้มากที่สุด เพื่อแยกผู้ป่วยออกจากประชากรให้ได้มากที่สุด ความสามารถในการตรวจของประเทศไทยสูงมาก แต่ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยหาที่ตรวจได้ยาก เพราะบางโรงพยาบาลจะจำกัดจำนวนการตรวจแต่ละวัน หรืองดการตรวจว่าน้ำยาหมด
ตัวอย่างที่เราเห็นคือประเทศอินเดียที่ขณะนี้ยากเกินกว่าที่จะควบคุมโรคนี้ได้ เมื่อเกิดการระบาดมากก็มันจะเกิดเชื้อที่กลายพันธุ์เพิ่มขึ้น ในอินเดียมีเชื้อกลายพันธุ์ที่เรียกว่า Double mutations สายพันธุ์อินเดียที่ทำให้ติดได้ง่ายขึ้น และมีแนวโน้มที่จะลดประสิทธิภาพของวัคซีน เป็นสายพันธุ์ที่จะท้าทายความสามารถของมนุษย์ ประเทศอินเดียอยู่ไม่ไกลจากเรา และทำนองเดียวกัน ถ้าเรามีผู้ป่วยหรือระบาดจำนวนมาก ก็จะมีการกลายพันธุ์ของไวรัสได้ เราไม่อยากได้ยินชื่อไวรัสสายพันธุ์ประเทศไทย”