น้ำมันดิบปิดลบจากแรงขายทำกำไร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นไปกว่า 2.5 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ ภายหลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงอย่างพลิกความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 46.9 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 67 เซนต์ ปิดที่ 49.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 2.56 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 455.9 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 54.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังปรับตัวลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า เฟดกำลังจับตาสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความกังวลมากขึ้นว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจนอกสหรัฐจะกระทบต่อเศรษฐกิจในอเมริกา