ASIAN วอลุ่มแน่น-บวกแรง 14% “ออไทม์ไฮ” ปักธงโกยรายได้ปีนี้ 9,500 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN  ณ เวลา 11.49 น. อยู่ที่ระดับ 27.50 บาท บวก 3.50 บาท หรือ 14.58% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 281.97 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯเมื่อวันที่ 5 ก.ค.2537

โดยก่อนหน้านี้นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยบริษัทเชื่อว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 9,500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 8-10% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 8,827.08 ล้านบาท และจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 15%

โดยรายได้ในปี 2564 จะมาจาก 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) อยู่ที่ 3,600 ล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 37% ของรายได้รวม,2. กลุ่มธุรกิจทูน่า (Tuna) อยู่ที่ 1,100 ล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 12% ของรายได้รวม ,3. กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ (Aqua Feed) จะอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท เติบโต 3.26% จากปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 18% ของรายได้รวม และ4. กลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง (Frozen) จะอยู่ที่ 3,200 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 33% ของรายได้รวม

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2564 บริษัทเชื่อว่าจะเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากกลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งดำเนินการเต็มกำลังการผลิตตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ในปี 2563 เริ่มดำเนินการเต็มกำลังการผลิตในเดือนมีนาคม 2563 และมียอดคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาอย่างต่อเนื่องถึงไตรมาส 2/2564 แล้ว ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงก็ยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมียอดคำสั่งซื้อถึงเดือนพฤษภาคม 2564 แล้ว

ด้านในปี 2564 บริษัทวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ลงทุนขยายไลน์การผลิตใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และกลุ่มอาหารทอดแช่เยือกแข็ง จำนวน 300 ล้านบาท และใช้ปรับปรุงกระบวนการทำงาน จำนวน 70 ล้านบาท รวมทั้งใช้พัฒนาระบบที่ใช้ในการจัดการและวางแผนการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ขององค์กร (ERP) จำนวน 30 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงศึกษาการลงทุนใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเข้าลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ในกลุ่มที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น เช่น ตัวแทนกระจายสินค้า, การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และกำลังการผลิตอาหารสัตว์แบบเม็ด เป็นต้น เบื้องต้นบริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 500-1,000 ล้านบาท