COTTO วอลุ่มแน่น-พุ่งกระฉูด 13% ทะลุเป้า 1.76 บ. ลุ้นกำไรปีนี้โตเด่น 31%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ล่าสุด ณ เวลา 11.01 น. อยู่ที่ 1.93 บาท บวก 0.22  บาท หรือ 12.87% สูงสุดที่ 1.96 บาท ต่ำสุดที่ 1.72 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 ว่า COTTO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/64 ที่ 187 ล้านบาท เติบโต 50% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเติบโต 125% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ดีกว่าที่คาด เนื่องจากยอดขายเพิ่มจากความ ต้องการที่เติบโต, มาร์จิ้นที่ดีกว่าคาดและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง  และหากตัดค้าใช้จ่ายรายการพิเศษกำไรจากการดำเนินงานจริงจะโต 49% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 47% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน

โดยปรับประมาณการกำไรในปี 2564 – 2566  ของเพิ่มขึ้น 11%, 12.5% และ 11% ตามลำดับ เนื่องจากปรับประมาณการยอดขายเพิ่มขึ้น 1.5%, 2.2% และ 2.2% และปรับ Gross margin เพิ่มจาก 27.9%, 28.1% และ 28.4% เป็น 28.5%, 28.7% และ 28.9% ตามลำดับ

แม้ว่าในปีนี้ต้นทุนก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากแผนควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทที่ดำเนินการมาหลายปีเริ่มเห็นผล และคาดว่าราคาขายเฉลี่ยของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจาก 156.2 บาท ในปีที่แล้วเป็น 158 บาท/ตรม.ในปีนี้ตามต้นทุนที่เพิ่มตามคู่แข่งในประเทศที่มีการปรับราคาขายขึ้นแล้ว โดยรวมคาดว่ากำไรของบริษัทในปี 2564 จะเติบโต 31% เนื่องจากยอดขายและมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ประมาณการกำไรที่เพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายของบล.ทิสโก้ ที่คิดจาก PER ที่ 19 เท่าสำหรับปี 2564 (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีของ DCC ซึ่งทำธุรกิจเดียวกัน) เพิ่มขึ้นจาก 1.58 บาท เป็น 1.76 บาท เนื่องจากราคาในปัจจุบันยังมี Upside จากราคาเป้าหมายของเราที่ 12% จึงปรับคำแนะนำของจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”

ด้าน นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ COTTO เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนการดำเนินงานในระยะสั้นภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ โดยพยายามเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายผ่านช่องทางที่หลากหลายและผสมผสานระหว่างหน้าร้านสาขาและช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านผู้แทนจำหน่าย ร้านค้าปลีก ร้านค้าช่วง โมเดิร์นเทรด และ COTTO Life ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่จะเข้าถึงและซื้อสินค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและลดความกังวลจากการติดเชื้อในสถานการณ์แพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ด้วย

ปัจจุบัน คลังเซรามิค มีจำนวนทั้งหมด 47 สาขา กระจายอยู่ตามพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยบริษัทฯยังคงเร่งขยายสาขาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และยังได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน โดยนำเทคโนโลยีและการสื่อสารออนไลน์เข้ามาช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้า ช่วยให้สามารถบริหารจัดการช่องทางจัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ล่าสุด บริษัทฯ ได้ทดลองเพิ่มรูปแบบกิจกรรมการขายสินค้าให้กับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายเป็นการสั่งจองและขายสินค้าผ่านการ Live ทางเฟซบุ๊ก ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจมาก ถือเป็นการปรับกระบวนการทำงานภายใน ระหว่างบริษัทและผู้แทนจำหน่ายซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความรวดเร็วและความต่อเนื่องในการติดต่อซื้อขายระหว่างกันในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด