ความเชื่อมั่นพินาศ

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

พระมหาสมปองวิจารณ์รัฐบาลไม่ได้ ธรรมนัสเป็นรัฐมนตรีได้

สองเรื่องเหมือนไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นความตกต่ำประจำสัปดาห์ เป็นเรื่องที่ชาวบ้านด่ามากที่สุด รองจากบริหารจัดการโควิดล้มเหลว สะท้อนความพังทั้งระบบ ประชาชนไม่เชื่อถือหมดแล้ว ทั้งอำนาจศาล อำนาจรัฐ อำนาจสงฆ์

แน่นอน ประชาชนเคารพรักสมเด็จพระสังฆราช แต่อำนาจที่จัดการพระตอนนี้ เป็นอำนาจรัฐเสียมากกว่า คับแคบครอบงำจำกัดศาสนา แบบสำนักพุทธฯ ยกทัพโยธาไปจับขนมอาลัว

เรื่องธรรมนัสอาจจบทางกฎหมาย แต่ต่อให้ศาลห้าม เสียงวิจารณ์ก็ไม่จบ ความเชื่อถือล้มละลาย ที่บานปลายคือเรื่องทางจริยธรรม ประยุทธ์จะปล่อยให้ธรรมนัสเป็นรัฐมนตรีอยู่หน้าตาเฉย จะส่ง รมช.เกษตรไปประชุม CPTPP กับออสเตรเลีย? ไม่อายไม่แยแสใครเลยหรือ

ปปช.อ้างว่า อาจไม่ผิดจริยธรรม เพราะเรื่องเกิดก่อนดำรงตำแหน่ง พรรค พปชร.ก็พูดเหมือนกัน งั้นฆ่าพ่อฆ่าแม่แล้วพ้นโทษ ถ้าศาลไม่ห้ามก็เป็นรัฐมนตรีได้ อะไรคือจริยธรรม

มันกลายเป็นอ้างว่าจริยธรรมอยู่ในกฎหมาย พอศาลไม่ห้าม ปปช.ไม่เอาผิด ประยุทธ์ก็ไม่ต้องรับผิดชอบกับการตั้งคนมีมลทิน

ความเชื่อมั่นเป็นปัญหาใหญ่ ในการนำประเทศฝ่าวิกฤต ทำไมพี่โทนี่ rebrand ออกคลับเฮ้าส์เขย่าถล่มทุกครั้ง เพราะแม้ทักษิณมีจุดอ่อนบางด้าน แต่เรื่องบริหารวิกฤต คนเชื่อถืออดีต CEO มากกว่าอดีต ผบ.ทบ. ซึ่งจะจัดพิธีสวดมนต์สู้โควิด ทั้งที่โควิดต้องพึ่ง “วัคซีน สรณังคัจฉามิ”

ใช่ละ ประยุทธ์ประกาศซื้อวัคซีนเพิ่มเป็น 150 ล้านโดส ไฟเซอร์ก็จะมา โมเดอร์นาให้เอกชนสั่งได้ แล้วไง? เพิ่งสำนึกหลังถูกด่า พยายามแก้ตัว แต่ไม่ยอมรับว่าผิด ยังจะเอาบุญคุณเอาผลงาน สร้างภาพหวังพลิกความนิยม โถ โควิดรอบสามแจกสองพันบาท รอบสองเบากว่าแจกเจ็ดพัน ร้านอาหาร คนหาเช้ากินค่ำจะตายกันหมด

แต่พอใครไปเมนต์ในเพจ ก็จะเอาผิด ล่าสุดถึงขั้นปิดคอมเมนต์ ไม่ยอมให้ด่า

ความเชื่อมั่นต่อมาตรการของรัฐ ต่อหมอ ต่อผู้เชี่ยวชาญ ต่อกระทรวงสาธารณสุข เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำประเทศรอดพ้นภัยพิบัติ แต่ทุกวันนี้กลับพังไปหมด เพราะมาตรการของรัฐมีทั้งล่าช้าไม่ทันการณ์ มีทั้งเอาความกลัวมาขู่บังคับเกินจำเป็น

ความไม่เชื่อมั่นวันนี้ลามไปถึงวัคซีน ซึ่งจองล่าช้า แทงม้าแอสตราเซเนกาสยามไบโอ 26 ล้านโดสเดือนมิถุนายน แล้วก็สั่งซิโนแวคมาแก้ขัด ระหว่างนี้ก็มีข่าว แอสตราฯ หลอดเลือดอุดตัน ซิโนแวคไม่ได้ผลในชิลี ตุรกี (ช่วยลดความรุนแรงเมื่อป่วย แต่ไม่ลดการแพร่เชื้อ) ในไทยมีข่าวฉีดแล้วแพ้เป็นระยะ

พอมีพยาบาลฉีดแล้วแพ้ไปออกทีวี โดน ผอ.เรียกพบ สธ.ก็อ้างว่าเครียดเอง หลายพื้นที่ไม่เปิดเผยข้อมูลยิ่งทำให้คนไม่เชื่อมั่น ไม่กล้าฉีด พอมีข่าวจะฉีดคนอายุเกิน 60 ก็ตกอกตกใจ

จากไม่เชื่อมั่นรัฐบาล ก็ลามไปไม่เชื่อมั่นผู้บริหาร สธ. หมอผู้เชี่ยวชาญ ที่พากันป้องรัฐบาล ป้องวัคซีน บางรายไปถึงขั้นโฆษณาสรรพคุณแอสตราฯ เหนือกว่าไฟเซอร์ เหมือนคนไทยโง่ ไม่ติดตามผลการทดลองทั้งโลก

“วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่มีให้ฉีดตอนนี้” พูดอีกก็ถูกอีก แต่พูดอีกก็ถูกถีบ รัฐจองวัคซีนช้าแทงม้าตัวเดียว (ตอนนี้เป็นมวยแทนด้วยซ้ำ) ประชาชนจำเป็นต้องฉีดกันตาย แต่ฉีดไปก็ด่าไป ใครอย่ามาปกป้องรัฐบาล

การบริหารจัดการโควิดต้องดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่หวังผลการเมือง แบบหวังเป็นเครื่องมือประยุทธ์กู้ภาพ เปิดโรงพยาบาลสนามก็ต้องมีรัฐมนตรีนำขบวนแห่ จัดฉีดวัคซีนก็รายชื่อผู้มีพระคุณเป็นหางว่าว นายกฯ ผู้ว่าฯ ที่ปรึกษา

ถ้าความเชื่อมั่นยังตกต่ำ การบริหารย่ำแย่ โควิดก็ยืดเยื้อ ตัวเลขไม่ลดไปอีกเป็นเดือนๆ