สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 พ.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 พ.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อได้ผลักดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธนี้ ซึ่งหากตัวเลข CPI พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,742.82 จุด ลดลง 34.94 จุด หรือ -0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,188.43 จุด ลดลง 44.17 จุด หรือ -1.04% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,401.86 จุด ลดลง 350.38 จุด หรือ -2.55%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดปรับตัวขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายช่วยหนุนหุ้นกลุ่มต่างๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 445.39 จุด เพิ่มขึ้น 0.46 จุด หรือ +0.10%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,385.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,400.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.76 จุด หรือ +0.001% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,123.68 จุด ลดลง 6.03 จุด หรือ -0.09%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก และได้บดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,123.68 จุด ลดลง 6.03 จุด หรือ -0.09%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวท่อส่งน้ำมันของบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ในสหรัฐ ถูกโจมตีทางไซเบอร์ อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังมีรายงานว่าสหรัฐและอิหร่านมีความคืบหน้าในการเจรจายกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 64.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 68.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.3 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,837.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.2564

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 27.492 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ 1,265.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 43.10 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 2,968.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) เนื่องจากตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ได้ลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.03% แตะที่ 90.2155 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9007 ฟรังก์ จากระดับ 0.9010 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2099 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2141 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.82 เยน จากระดับ 108.61 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2144 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2165 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4134 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3996 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7842 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7846 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button